Last updated: 20 ก.ย. 2565 |
มันดีมากเลยนะ ว่ามั้ย เวลาลูกมาเล่าความฝันของเค้าให้เราฟัง มันทำให้เราอยากจะซัพพอร์ตเค้า แล้วก็อยากมีชีวิตอยู่ ดูวันที่เค้าทำความฝันนั้นให้เป็นความจริง และไม่ว่าความฝันของเด็กตัวเล็กๆ คนนี้ จะยิ่งใหญ่เพียงใด เราก็เชื่อมั่นว่า “มันจะเป็นจริงได้”
มีบทความหนึ่ง เขียนโดย อดัม สเทิร์น จิตแพทย์ นักเขียน และนักวาดการ์ตูนเกี่ยวกับจิตวิทยา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบทสนทนาก่อนนอน และเรื่องราวเกี่ยวกับความฝัน ของเด็กชาย วัย 5 ขวบ เป็นบทความที่น่ารักมาก และก็ทำให้ตระหนักด้วยว่า พ่อแม่ไม่ควรเอาประสบการณ์และความเชื่อของเราเอง มาปิดกั้นความฝันของลูก
...ในคืนหนึ่ง หลังจากที่ลูกชายในวัยอายุ 5 ขวบของเค้า ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาล ก็ได้พูดขึ้นมาว่า เมื่อโตขึ้นเขาอยากจะเป็นนักบินอวกาศ นักวาดภาพ (จิตรกร) แล้วก็เป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียน ในเวลาเดียวกัน บ่อยครั้งที่ลูกชายของเค้าชวนเค้าคุยเรื่องต่างๆ เพราะไม่อยากเข้านอนเมื่อถึงเวลา แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป ลูกชายเค้าพยายามที่จะพรรณนาความน่าตื่นเต้นของดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ และพระอาทิตย์ รวมไปถึงความสนุกที่ได้ระบายสีที่โรงเรียน พร้อมกับตั้งคำถามสำคัญกับอดัมว่า
“มันจะเป็นไปได้จริงหรอพ่อ…
ที่จะนักบินอวกาศ นักวาดภาพ และนักสอน ในเวลาเดียวกันน่ะ”
อดัมบอกว่า เค้าได้แต่อึ้ง เพราะไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นใครทำทั้งสามอาชีพในเวลาเดียวกัน...
ทางภรรยาของเค้าได้ตอบลูกชายไปว่า “ได้สิ ลูกอาจจะสอนเรื่องราวเกี่ยวกับอวกาศให้เด็กนักเรียน” หลังจากนั้นอดัมก็เสริมไปว่า “แล้วก็วาดรูปในเวลาว่างแบบพ่อไง” แน่นอนว่า งานอดิเรกของอดัมคือการวาดการ์ตูนเกี่ยวกับจิตวิทยาและชีวิต ~ ~ เด็กชายที่เริ่มเรียนรู้ว่าโลกใบนี้ดำเนินไปอย่างไร ก็รู้สึกไม่ประทับใจทันทีกับคำตอบของพ่อที่ว่า “วาดรูปในเวลาว่าง” เค้ารีบตอบพ่อกลับไปว่า
“ไม่!!!
ทุกสัปดาห์ผมจะเป็นนักบินอวกาศ 3 วัน นักวาด 1 วัน และนักสอน 1 วัน”
เมื่อวางแผนชีวิตเรียบร้อยแล้ว เค้าก็ไปเข้านอน
แต่สิ่งที่ติดอยู่ในใจของอดัมคือ ในวัย 5 ขวบของลูก มันใช่เวลาที่พ่อจะพูดความจริง ที่อาจตรงข้ามกับความฝันของลูกหรือไม่ ถ้าตอนนี้ยังไม่ใช่ แล้วตอนไหนล่ะที่พ่อกับแม่ ถึงจะบอกลูกได้ว่า “มันอาจไม่ใช่อย่างที่เค้าคิด”
อดัมเลยย้อนกลับไปคิดถึงตัวเองในวัย 5 ขวบ ว่าตอนนั้นเค้าก็มีความฝัน ฝันว่าอยากเป็นหมอและได้ทำงานกับพ่อของเค้า และสิ่งที่พ่อกับแม่ทำกับเค้าคือ บอกเค้าว่า
“เค้าจะเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น หากทุ่มเทกับมันมากพอ”
ต่อมาในวัย 8 ขวบ อดัมก็มีความฝันสั้นๆ ว่าอยากเป็นนักเบสบอล แต่พอมัธยมปลายก็คิดว่าอาจจะอยากเป็นนักจิตวิทยาหรือนักข่าวให้กับหนังสือพิมพ์ แล้วพอมหาวิทยาลัยก็อยากเขียนบทหนังที่ดังระเบิด ~ ~ แต่พอเขียนไป กลับไม่มีการตอบรับทำหนังจากที่ไหนเลย แล้วก็เป็นนักเบสบอลไม่ได้แล้วด้วย
...ในที่สุด อดัมก็ไปสมัครเรียนหมอ แล้วเขียนเรียงความว่าอยากเป็นหมอตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เค้าเลือกเรียนเมเจอร์จิตเวทยศาสตร์ นอกจากนั้นเค้ายังเริ่มเขียนบทความออนไลน์ จนไปเข้าตาสำนักพิมพ์แล้วก็โดนชวนไปเขียนหนังสือเกี่ยวกับ “การใฝ่หาความรักและการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์” ต่อมาหนังสือเล่มนั้นไปอยู่ในนิตยสาร และเค้ายังได้ทำงานกับทีมในฮอลลีวูดอีกด้วย
ก่อนออกจากห้องนอนลูกชายในคืนนั้น อดัมบอกกับลูกของเค้าว่า “พ่อเป็นหมอ นักเขียน และนักวาดภาพได้ พ่อเชื่อว่าลูกจะเป็นอะไรก็ได้ที่ลูกอยากเป็น”
พอกับประโยคของอดัม ลูกชายวัย 5 ขวบของเค้าก็ตอบกลับมาทันทีว่า “ผมรู้ครับพ่อ”
นั่นแหละค่ะ ไม่ว่าลูกอยากจะเป็นอะไร ปล่อยให้ลูกได้ฝันและหาหนทางเป็นสิ่งนั้นอย่างเต็มที่ เพราะหน้าที่ของพ่อแม่คือการปกป้องความฝันของลูก
พักสายตา ฟังบทความนี้แบบ Audiobook คลิกเลยค่ะ
14 พ.ย. 2567
25 ต.ค. 2567
4 พ.ย. 2567
13 ต.ค. 2567