“อาการแพ้ท้อง” ของคุณแม่ตั้งครรภ์

จะว่าไป “การแพ้ท้อง” ถือช่วงที่หนักหน่วงช่วงหนึ่งของคุณแม่ตั้งครรภ์เลย เพราะไหนจะกินอะไรก็ไม่อร่อย อ่อนเพลีย เหม็นอาหารทุกสิ่ง และอยากอ้วกตลอดเวลา แต่โดยปกติคุณแม่จะมีอาการแพ้ท้องในช่วง 6 - 8 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ก็มีคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่น้อยเลยนะคะ ที่แพ้ตลอดช่วงแรกของการตั้งครรภ์

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณแม่ที่กำลังแพ้ท้องอยู่ อาจจะรู้สึกท้อแท้ หมดแรงลงได้ ไม่ต้องกังวลค่ะ เรื่องของอาการแพ้ท้องของคุณแม่นี้ จะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไตรมาสที่สองค่ะ

คุณแม่อาจจะรู้สึกเหนื่อยล้ากับช่วงเวลาของอาการแพ้ท้อง แต่ในอีกด้านหนึ่งอาการแพ้ท้องนั้น แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการครรภ์ที่ดี เนื่องจากเป็นสัญญาณของการสร้างฮอร์โมนที่จำเป็นค่ะ


  สาเหตุของอาการแพ้ท้อง

  การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่มาจากเด็กทารกในครรภ์และรก ทำให้ปริมาณฮอร์โมนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  คุณแม่มีอารมณ์อ่อนไหว มีความวิตกกังวล มีความเครียด


  อาการแพ้ท้อง

  อ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา ไม่มีเรี่ยวแรง เหนื่อยง่าย และไม่อยากทำอะไรอยู่หลายวัน
  คลื่นไส้อยากอาเจียน ผะอืดผะอม
  เหม็นกลิ่นต่างๆ อาจจะเป็นกลิ่นอาหาร เนื้อสัตว์ หรือแม้แต่กลิ่นที่เคยชอบมาก่อน
  รู้สึกแสบลิ้นปี่


  เคล็ดลับ “ลดอาการแพ้ท้อง”

  ดื่มน้ำเปล่าให้มากและบ่อยขึ้น เพราะการดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดีขึ้น

  แบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ อาจจะเพิ่มจาก 3 มื้อ เป็น 5 มื้อแทน และควรเน้นอาหารที่ครบถ้วน มีประโยชน์ ทั้งมีโปรตีน มีธาตุเหล็กและกรดโฟลิคที่สูง รวมถึงอาหารที่มีกลุ่มไขมันดีที่จำเป็นต่อร่างกาย

  เปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลาย จากที่เคยรับประทานข้าวก็อาจจะลองเปลี่ยนมาเป็นขนมปัง เผือก มัน หรือข้าวโพดทดแทน

  เลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดการอาเจียน หรือสังเกตอาหารที่ร่างกายตอบสนองไว เพื่อลดอาการแพ้ท้อง

  แนะนำให้ดื่มน้ำขิง เพราะน้ำขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ดี

  ที่สำคัญที่สุดเลยคือพักผ่อนให้เพียงพอ พยายามอย่านอนดึกมากเกินไป


เป็นกำลังใจให้กับคุณแม่ที่กำลังเผชิญช่วงเวลาแพ้ท้องอยู่นะคะ คุณแม่อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย กว่าช่วงแพ้ท้องนี้จะผ่านไป และเมื่อผ่านไปได้แล้ว คุณแม่จะเหนื่อยกับการหาของกินอยู่ตลอดเวลา แล้วตอนนั้นคุณแม่อาจจะกลับมาคิดถึงช่วงเวลาที่ตัวเองเป็นคนกินน้อยๆ

พักสายตา ฟังบทความนี้ใน Audiobook คลิกเลยค่ะ