Last updated: 23 มิ.ย. 2562 |
เริ่มต้นจากการเป็น “เด็กหญิง” ที่เปี่ยมความหวังและจินตนาการ
กลายเป็น “หญิงสาว” ที่มากด้วยความฝัน
สู่การเป็น “ผู้หญิง” ผู้แบกภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงไว้เต็มหลัง ในฐานะ “แม่”
แน่นอนว่าเราอาจเพิ่งจะเคยเป็นแม่ แต่ที่แน่ๆ ก่อนเราจะเป็นแม่ อย่าลืมว่าเราก็เคยเป็นลูก มาก่อน!!
ประสบการณ์การเป็นแม่อาจจะยังมีไม่มากเท่า แต่ประสบการณ์การเป็นลูกที่เราเป็นมาแล้วค่อนชีวิต ต้องยอมรับว่าเราได้เรียนรู้ในสิ่งที่แม่เคยสอนตั้งแต่เด็กๆ สอนให้เราแยกแยะว่าสิ่งไหนควรทำ หรือสิ่งไหนไม่ควรทำ บางครั้งเรา “เผลอทำ” ในสิ่งที่ไม่ควร เราก็ได้รับบทเรียน และหลายครั้งที่แม่ “วางแผน” ในสิ่งที่แม่คิดว่าดี หรือสิ่งนั้นเราควรจะเป็น จนมองข้ามไปว่าสิ่งที่แม่คิดว่าดี ลูกอาจจะทำออกมาได้ไม่ดี
ตอนเด็กแม่มักบอกว่า “ตั้งใจเรียนให้เก่งๆ นะลูก โตไปจะได้เป็นครู เป็นหมอ เป็นทนาย” เพราะแม่คิดว่าการมีอาชีพเหล่านี้จะสร้างฐานะที่มั่นคงให้กับลูกได้ ลูกจะได้ไม่ลำบาก คงจะจริงอย่างที่แม่บอก เพราะเมื่อก่อน “ทางเลือกมีน้อย” แต่ในยุคนี้เรียนเก่งที่สุดอาจไม่จำเป็นเท่า การได้ค้นพบว่าตัวเองชอบอะไร หรือ "ฝัน" อยากจะเป็นอะไร… “นักวาดภาพ นักร้อง นักเต้น ช่างภาพ” เด็กทุกคนสามารถเป็นได้ ถ้าสิ่งที่เขาอยากเป็น เขามั่นใจว่า “ชอบ” และพร้อมจะทำมันอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด เขาก็สามารถเติบโตอย่างมั่นคงกับอาชีพเหล่านี้ได้
สิ่งที่แม่แบบเราควรจะทำคือ.... “ให้ลูกเป็นตัวเองแล้วเดินเข้าไปหาลูก
ดีกว่าวางสิ่งที่อยากให้ลูกเป็น แล้วบังคับให้เขาเดินตาม" ปล่อยให้ลูกเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิต ในแบบที่เขาอยากจะเป็น
ตอนที่ยังไม่ได้เป็น “แม่” เราไม่รู้หรอกว่าอะไรผิด หรืออะไรถูก
...จนกว่าเราจะได้เป็นแม่จริง ๆ
“ลูก” คือคนที่จะสอนให้เราเข้าใจ หน้าที่ของการเป็นแม่ที่แท้จริง
“ลูก” ก็เหมือนกัน...
เขาไม่รู้หรอกว่าอะไรถูก หรืออะไรผิด เขารอที่จะเรียนรู้ “ถูก ผิด” จากเรา
เพราะฉะนั้นทั้งเราและลูก เกิดมาเพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
หนังสือ คู่มือ หรือบทความต่างๆ เป็นเพียงเพื่อนร่วมเดินทาง และผู้ช่วยในการเลี้ยงลูกของคุณเท่านั้น
ไม่ใช่บทสรุปทั้งหมดที่จะบอกว่าคุณควรเป็นแม่แบบไหน คุณแค่ เลี้ยงลูกตามสัญชาตญาณของคุณให้ดีที่สุด
เรื่อง ไอลดา นวสิมัยนาม
25 ต.ค. 2567
4 พ.ย. 2567
13 ต.ค. 2567
3 ต.ค. 2567