จัดการอย่างไร กับความหึงที่มากเกินของผู้ชาย

แหม! มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว คนรักกันย่อมต้องรู้สึกทั้งห่วง และหวง ไม่ต้องการให้ใครมาแย่งความสำคัญในหัวใจคนรักของตัวเองไป จริงไหม?  

แต่การแสดงอารมณ์หึงหวงออกมาอย่างเปิดเผยของเขา อาจทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด แล้วพาลมีปากเสียงกันได้ในที่สุด” โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ผิด และอยากปกป้องสิทธิของตัวเองยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากยิ่งขึ้น

การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ มักทำให้ลงตัวกันได้ยาก แต่ถ้าลองหันมาค้นหาดูว่าอะไรเป็นปมที่ทำให้เขาไม่ไว้ใจคุณ แล้วค่อยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุน่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า 

ทำไมเขาถึงขี้หึงจัง!?!

นักจิตวิทยาด้านความสัมพันธ์ฉันคู่รักท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า สาเหตุที่ทำให้ผู้ชายมีอาการหึงหวงหญิงข้างกายของตัวเองนั้นมีอยู่ 2 ข้อด้วยกันคือ 

1 .เขารู้สึกไม่ไว้ใจคุณ  ไม่ว่าจะด้วยพฤติกรรมการวางตัวของคุณเองที่ทำให้เขาระแวงสงสัยแล้วเลยเถิดไปเป็นความไม่ไว้ใจคุณ หรือตัวเขาเองมีนิสัยขี้ระแวงอยู่แล้วก็ตาม แต่สาเหตุที่มาจากความไม่ไว้วางใจกัน เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้ครอบครัวต้องแตกแยกมานับต่อนับแล้ว หากสาเหตุแห่งความไม่ไว้วางใจของเขาเกิดขึ้นจากตัวคุณเป็นหลัก มันก็ง่ายที่จะแก้ไข เพียงคุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเท่านั้น แต่ถ้าหากสาเหตุมาจากการที่เขามีนิสัยขี้ระแวง อันนี้ยากหน่อย แต่ก็ยังพอแก้ไขได้ หากคุณมีความเข้าใจ และอดทนมากพอ

2. เขาไม่เชื่อมั่นในตัวเอง  การที่เขาแสดงอาการหึงหวงคุณ นั่นเพราะเขาอาจรู้สึกว่า คุณคือสิ่งสำคัญในชีวิตเขา ที่เขาไม่สามารถทำใจปล่อยคุณหลุดมือไปได้ และการจะรั้งคุณให้เก็บใจไว้กับเขาตลอดเวลานั้น เป็นสิ่งที่ยากสำหรับเขาเหลือเกิน ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะคิดได้ ก็คือ การกันไม่ให้คุณได้เจอะเจอบุคคลที่อาจพรากหัวใจคุณไปจากเขาได้ ในกรณีนี้การหมั่นทำโรแมนติกกับเขาบ่อยๆ จะช่วยได้

พฤติกรรมที่ชวนให้ (เขา) ระแวง

บางครั้ง พฤติกรรมที่คุณแสดงออกมาอาจทำให้เขาคิดมากจนกลายเป็นความระแวงได้โดยที่ตัวคุณเองก็ไม่รู้ตัว ไปดูกันว่าพฤติกรรมอะไรบ้างที่น่าจะเป็นสาเหตุให้เขาเกิดความระแวงขึ้นได้...

1. ทำตัวไม่เสมอต้นเสมอปลาย  พอเขาเอาใจเราเข้าหน่อยก็หวานเข้าใส่ แต่พอเขาไม่ยอมตามใจด้วยเรื่องนิดเดียว ก็ทำกระฟัดกระเฟียด งอน ไม่ยอมพูดด้วย และทำเฉยชา บางครั้งก็เลยเถิดจนถึงขนาดจะขอเลิก หรือทำทีท่าว่าอยากจะกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า ประเด็นหลังสุดนี่แหละที่จะทำให้เขาขาดความมั่นใจในความรักของคุณ และกลายเป็นความไม่ไว้วางใจไป

2. แต่งแล้วยังอยากมีโลกส่วนตัวอีก  จริงอยู่ที่คนเราต่างจิตต่างใจ คุณอาจอยากมีโลกส่วนตัวของคุณบ้างในบางเวลา แต่คุณก็ควรถ้อยทีถ้อยอาศัยกันหน่อย สังเกตสักนิดว่าพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความอยากมีโลกส่วนตัวของคุณอย่างไหนบ้างที่มันทำร้ายจิตใจเขาเหลือเกิน และพยายามหาจุดที่สามารถมาพบกันครึ่งทางได้ บางพฤติกรรมของคุณ แม้ความตั้งใจจริงเพียงแค่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่เขาอาจคิดว่าคุณไม่อยากมีเวลาอยู่ร่วมกับเขาแล้ว อย่าลืมนะว่า การที่คุณตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวกับเขา นั่นก็เพราะคุณต้องการสร้างโลกใบใหม่ร่วมกับเขาไม่ใช่หรือ 

3. ไปไหนไกลๆ แล้วไม่ติดต่อกลับมาบ้าง   ก็จริงอยู่หรอกว่าคุณมีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปไหนไกลๆ บ่อยๆ เพราะงาน แต่การบอกกล่าวให้เขาได้รับรู้ถึงความจำเป็นเพียงอย่างเดียว มันไม่พอหรอก มันต้องอาศัยพฤติกรรมบางอย่างที่จะทำให้เขาเชื่อมั่นในตัวคุณมากขึ้น ก็โทรศัพท์มือถือที่กำอยู่ในมือนั่นไง กดไปบอกเขาเสียหน่อยว่าตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่ ที่ไหน อย่าคิดว่าเป็นการรายงานตัวเลย คิดเสียว่าเป็นการแชร์ความรู้สึกต่อบรรยากาศที่คุณอยู่ร่วมกันกับเขา โรแมนติกจะตาย

หากคุณรู้สึกว่า ทั้งหมดที่แนะนำมานั้นเป็นเรื่องที่ยากปฏิบัติเหลือเกิน เรามีหมัดเด็ดที่ง่ายต่อการปฏิบัติมากระซิบบอกส่งท้ายกัน ง่ายๆ แค่หมั่นดูแลเอาใจใส่เขาในทุกเรื่อง อย่างเสมอต้นเสมอปลาย แค่นี้ก็จะช่วยตอกย้ำให้เขามั่นใจได้ว่า เขาน่ะคือ คนสำคัญที่สุดในชีวิตคุณ