Last updated: 4 ก.ย. 2567 |
Happy Trip for Kids พาลูกเที่ยวให้ปลอดภัย
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันปิดเทอมของลูกๆ กันแล้วนะคะ คุณพ่อ คุณแม่คงเตรียมตัววางแผนสำหรับทริปสำคัญให้ลูกๆ อยู่แน่นอน แต่อาจจะเป็นกังวลอยู่ว่าจะกระเตงลูกไปเที่ยวกันแบบไหนดี ?
ขึ้นรถ ลงเรือ หรือขึ้นเครื่องบิน...
ไปเหนือล่องใต้...หรือจะลัดฟ้าข้ามประเทศ
จะปักหลักพักเต้นท์แค้มปิ้งในป่าดงพงไพร
จะนอนโรงแรม รีสอร์ต ที่พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก หิ้วกระเป๋าเข้าพักก็จบ
เลือกทางไหนดีที่จะทำให้ลูกเที่ยวได้อย่างปลอดภัย มีความสุข และประทับใจกับบทเรียนใหม่ๆ ในโลกกว้างใบนี้???
เรื่องที่คุณพ่อ คุณแม่ควรต้องกังวลน่าจะเป็นช่วงวัยของลูกๆ เป็นสำคัญ ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ สำหรับลูกๆ ที่มีวัย 5 ขวบขึ้นไป จะเป็นช่วงวัยที่เหมาะกับการพาไปเที่ยวที่ดีที่สุดค่ะ เพราะเป็นวัยที่สมองของลูกๆ จะจดจำช่วงเวลาประทับใจ กิจกรรมสำคัญๆ เช่น ได้ขึ้นเครื่องบิน อยู่ในสนามบิน ได้นั่งรถท่องเที่ยว ไปว่ายน้ำ ไปทะเล หรือเล่นสระน้ำได้อย่างชัดเจนค่ะ ซึ่งข้อมูลนี้ได้มาจาก Amanda Gummer นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก ได้เขียนในบทความที่ตีพิมพ์ลง Telegraph
สอดคล้องกับผลสำรวจของเว็บไซต์บริษัทท่องเที่ยวแบบครอบครัว Florida 4Less ที่สำรวจความเห็นของผู้ใช้ พบว่าผู้ใหญ่ 20% ที่อยู่ในการสำรวจ จำช่วงเวลาไปท่องเที่ยววันหยุดครั้งแรกได้ตอนอายุ 5 ขวบ
หรือแม้แต่นักจิตวิยาคลินิกอย่าง Erica Reischer ใน Oakland รัฐ California ผู้เขียนหนังสือ What Great Parents Do: 75 simple strategies for raising fantastic kids แสดงทัศนะว่า การท่องเที่ยว คือ พื้นฐานของการเรียนรู้การใช้ชีวิตที่เหนือกว่าการสั่งสอนในบ้าน อีกทั้งยังให้ผลดีกับเด็กในหลายด้านด้วยกัน เช่น การปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ มารยาทในการขอความช่วยเหลือ การจดจำและสังเกตสิ่งต่างๆ การสร้างความรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่ใหม่ และการปรับตัวให้เข้ากับผู้คนแปลกหน้าเมื่อไปท่องเที่ยว เป็นต้น
“คราวนี้ก็มาถึงสิ่งที่ต้องเคร่งครัดกับการเตรียมตัวให้ลูกๆ เที่ยวได้อย่างปลอดภัยกันแล้วล่ะค่ะ”
ขึ้นรถ ลงเรือ หรือเหินฟ้า
ปิดเทอมสอง ก็ถึงช่วงเทศกาลท่องเที่ยวพอดีเลย หากคุณพ่อ คุณแม่ตัดสินใจได้แล้ว ก็เตรียมตัวให้ลูกได้เที่ยวอย่างปลอดภัยด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
พาลูกเที่ยววิธีใด ปลอดภัยมากที่สุด
1.การเดินทาง
"ขึ้นรถ"
ต้องให้ลูกนั่งในคาร์ซีตเบาะหลังเพื่อความปลอดภัย หากเกิดอุบัติเหตุ ลูกจะไม่กระเด็นออกจากตัวรถ และบาดเจ็บน้อยที่สุดค่ะ นอกจากนี้ก็ต้องมีขนมขบเคี้ยว ลูกอมไว้กินเพลินๆ แก้ง่วง หรือกรณีมีลูกเล็กก็ต้องเตรียม นม ผ้าอ้อม อาหารสำหรับเด็กในช่วงวัยที่เหมาะสม และหมั่นพักรถบ่อยๆ เพราะจะได้ยืดเส้นยืดสาย เข้าห้องน้ำทำธุระ เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก ไม่งั้นเด็กจะเครียดในการเดินทางมากเกินไป
ข้อควรระวัง!!!
อย่าปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังภายในรถยนต์ แม้แต่เพียงชั่วครู่ เพราะอาจเกิดอันตรายได้ เช่น เด็กอาจเล่นซนจนเปิดประตูรถ หรือเด็กอาจเกิดอาการป่วยเฉียบพลัน คุณพ่อ คุณแม่ หรือพี่ที่โตกว่าจะต้องสลับกันเฝ้าดูน้องจะดีที่สุดค่ะ
"ลงเรือ"
การเดินทางโดยเรือจะไม่แนะนำเลยเพราะถ้ามีภัยพิบัติทางน้ำและทะเลเป็นอะไรที่ควบคุมไม่ได้ เนื่องจากมักเป็นภัยธรรมชาติที่รุนแรงและช่วยเหลือได้ลำบาก
ข้อควรระวัง!!!
แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ เช่น นั่งเรือข้ามเกาะไปอีกฝั่ง ทั้งครอบครัวจะต้องสวมเสื้อชูชีพ และนั่งใกล้จุดที่มีห่วงยาง ในขณะที่เครื่องแต่งกายจะต้องใส่เสื้อแบบสบายๆ รองเท้าแตะ ไม่ใส่หุ้มข้อ ยาเมาเรือ และสัมภาระที่จำเป็น
“เหินฟ้าด้วยเครื่องบิน”
การพาลูกเที่ยวแบบขึ้นเครื่องบิน แม้จะทำให้ถึงจุดหมายปลายทางได้รวดเร็ว และบนเครื่องบินก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่คุณแม่ คุณลูกได้ในทุกช่วงวัยแล้วก็ตาม แต่คุณหมอก็ไม่อยากแนะนำให้ลูกวัยแรกเกิดหรือยังไม่ถึง 2 เดือนขึ้นไปเหินฟ้าอย่างแน่นอนค่ะ
ทำไมต้อง 2 เดือนขึ้นไป เพราะร่างกายของลูกแข็งแรงพอที่จะทนความเครียดจากการบินได้มากกว่า
คุณแม่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมไม่ว่าจะเป็น
1. เอกสารสำคัญสำหรับการเดินทาง ตั๋วเดินทางของสายการบินนั้นๆ พาสปอร์ต สูติบัตร บัตรประชาชนเด็กตัวจริง สำเนาเอาไปให้ครบ
2. จองที่นั่งสำหรับเด็กให้เหมาะสมกับช่วงวัย ซึ่งสายการบินจะมีบริการ Babu Bassinet ไว้บริการ โดยเปลเด็กส่วนมากจะรองรับเด็กอายุไม่เกิน 6 เดือน หรือเด็กที่มีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม คุณแม่ๆ จะได้ไม่ต้องอุ้มลูกไว้บนตักตลอดเวลา สามารถเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกได้นอนหลับสบายตลอดการเดินทาง
3. ชงนมพร้อมดูด ซึ่งต้องคุณพ่อคุณแม่ต้องศึกษาก่อนเดินทาง และขณะจองเที่ยวบินก็ต้องแจ้งต่อพนักงานสายการบินให้ทราบ และศึกษามาตรการกำหนดปริมาณการนำของเหลวขึ้นเครื่องให้ดี
4. แต่งตัวให้ลูกสบายๆ เนื้อผ้านุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว และจะได้เปลี่ยนผ้าอ้อมได้ทันท่วงที
5. ของเล่นเด็ก สร้างความเพลิดเพลินระหว่างการเดินทาง
ข้อควรระวัง!!!
จองที่นั่งล่วงหน้าว่ามีเด็กเล็กเดินทางไปด้วย เพื่อจะได้ที่นั่งด้านหน้าสุดที่มีความกว้างและสะดวกสบายในการติดตั้งเปลในกรณีที่เป็นทารก รวมถึงช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่สามารถลุกออกไปเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือชงนมให้เด็กโดยสะดวก ไม่ต้องรบกวนผู้โดยสารอื่น จึงแนะนำว่าให้จองที่นั่งออนไลน์ล่วงหน้า หรือหากไม่สะดวกจองอาจต้องไปสนามบินเร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อจองที่นั่งดังกล่าว
2. ที่พักของลูก
อันดับแรกคือ “ความสะอาด”
การเลือกเฟ้นหาที่พักให้ลูกน้อยของเรา ให้มองไปเรื่อง “ความสะอาด” เป็นสำคัญ เราสามารถค้นหาโรงแรมที่พักที่ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ เช่น การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ
“ความปลอดภัย” ก็สำคัญ
การปูพื้นยาง หรือเสื่อผืนเรียบยาวตลอดท้งห้อง
ควรหลีกเลี่ยงห้องที่ปูพรม เพราะพรมเป็นที่สะสมของฝุ่น อาจทำให้ลูกเกิดอาการคัดจมูก จาม หรือระคายเคืองกับผิวของลูกตอนที่นอนกลิ้งเล่นกับพื้นห้อง เกิดอาการคัน ยิ่งเกา ยิ่งเป็นผด ผื่นแดง ตามมา ทำให้เขางอแง ทริปนี้อาจหมดสนุกก็เป็นได้
สระว่ายน้ำใช้ส่วนกลางดีที่สุด
เด็กกับน้ำของคู่กัน แต่ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กวัยกำลังซน วิ่งเร็ว หายตัวเก่ง พลังงานล้นเหลือ จึงง่ายต่อการคลาดสายตาจากพ่อแม่ ฉะนั้น จึงควรหาที่พักที่ที่มีสระว่ายน้ำส่วนกลาง และเวลาลูกไปเล่นน้ำคุณพ่อ คุณแม่ควรไปนั่งเฝ้าแบบใกล้ชิด แม้จะมีไลฟ์การ์ดคอยดูแลแล้วก็ตาม
Kids Club ที่เหมาะสม
ปัจจุบันนี้ที่พัก รีสอร์ต โรงแรมแต่ละแห่งมี Kids Club ไว้ให้คุณลูกๆ ได้เล่นกัน จัดเป็นบริการชั้นเยี่ยมที่เข้าถึงใจลูกค้าที่มาพักได้ดีทีเดียวค่ะ บางแห่งก็ช่วยรับฝากเลี้ยงเวลาคุณพ่อ คุณแม่แอบย่องไปสปา อโรมา หรือไปช้อปปิ้งสักชั่วโมง สองชั่วโมง ลูกๆ จะได้ไม่เบื่อจ้า
3. ของใช้สำหรับลูก
"ยาสำหรับลูก ฉุกเฉินหยิบใช้ได้ทันที"
เด็กๆ มีความบอบบางมากกว่าพ่อแม่ อากาศร้อนก็พาลจะเป็นไข้ อากาศเย็นไปก็มีน้ำมูก เป็นหวัดคัดจมูก หรือไม่ก็วิ่งเล่นหกล้มก้นขวิดมีบาดแผลได้ง่าย หรือไปเดินสนามหญ้าอาจโดนมดกัด ยุงกัด แนะนำให้คุณแม่เตรียมยาสำหรับเด็กไปด้วย เช่น ยาแก้หวัด แก้ไข้ ลดน้ำมูก แก้ท้องเสีย พลาสเตอร์แปะแผล และแอลกอฮอล์เช็ดแผล ยาหม่อง เป็นต้น
"ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวสำหรับลูก"
การพาลูกเที่ยว คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับการดูแลสุขอนามัยของผิวเด็กให้พร้อม เพราะการที่เขาวิ่งซน เล่นสนุก ไปหยิบจับสิ่งของต่างๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นนั้น ทำให้ผิวเด็กสกปรก และอาจทำให้ผิวแพ้ง่าย เกิดการระคายเคืองได้
3 เคล็ดลับเตรียมตัวก่อนพาลูกออกเดินทาง ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเขา เสร็จแล้วก็ออกเดินทางกันได้เลยจ้า
Let's Go!!!
25 ต.ค. 2567
13 ต.ค. 2567
3 ต.ค. 2567
4 พ.ย. 2567