เมื่อวันหนึ่ง.. คุณรู้สึกว่าเขาน่าเบื่อ

ว่ากันว่าความรักเหมือนขนมหวาน ทิ้งไว้นานวัน ก็จะจืดจาง ไม่หอมหวาน หวือหวาเหมือนเมื่อครั้งรักกันใหม่ๆ อะไรๆ ที่เคยทนได้สบายๆ ในวันแรกเริ่ม แต่วันนี้ มันกลับตาลปัตรไปหมด ไม่ว่าเขาจะพูด หรือทำอะไร ดูมันไม่เข้าท่า ขัดตาไปเสียทุกอย่าง 

คุณล่ะ..เคยไหม จู่ๆ ก็รู้สึกเบื่อคนใกล้ตัวขึ้นมาเฉยๆ โดยไม่รู้สาเหตุ!!!

มันไม่ผิดเลยนะ ถ้าจะตอบว่า “เคย” และถึงแม้คุณจะเคยเบื่อคนใกล้ตัว ก็ไม่ได้หมายความว่า ความรักของคุณกำลังจะล่มสลายไป ความรู้สึกเบื่อ เป็นเพียงสัญญาณหนึ่งที่เตือนว่า ความรักกำลังเริ่มมีปัญหา ก่อนที่มันจะลุกลามรุนแรงจนถึงขั้นที่คุณสองคนต้องจบลงด้วยการเลิกรากันไป เรามาหาวิธีสกัดกั้นอารมณ์เบื่อหน่าย และเพิ่มสีสัน รสชาติให้กับความรักของคุณกันดีกว่า

ก่อนอื่น เราควรเริ่มต้นด้วยการสำรวจหาสาเหตุของเจ้าความรู้สึกอันน่าสะพรึงกลัวนี้ของคุณกันก่อนดีกว่า ว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เมื่อรู้แล้วจะได้หาวิธีแก้ไขได้ถูกต้อง

1. ลองดูว่า ความต้องการของคุณมันชัดเจนหรือยัง ดูว่าไอ้ความเบื่อที่เกิดกับคุณในตอนนี้น่ะมันเกิดจากตัวคุณเอง ที่กำลังมีอารมณ์แปรปรวน หรือไปพบใครใหม่ แล้วรู้สึกถูกใจปิ๊งปั๊งขึ้นมา แล้วมาพาลเอากับคนใกล้ตัว หาว่าเป็นพวกของเก่าเก็บ ทำอะไรก็ไม่ถูกใจหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็คงแก้ไขลำบากแล้วล่ะ 

มีอยู่ทางเดียว คุณคงต้องเตือนตัวเองบ่อยๆ ว่า ความรักไม่เพียงเปรียบได้ดั่งขนมหวานอย่างเดียว มันอยู่ที่มุมมอง หากคุณจะลองมองว่ามันเป็นเงินที่เก็บไว้ในธนาคาร ยิ่งนานวัน ก็ยิ่งอุ่นใจ มั่นใจในความมั่นคงปลอดภัย แต่ถ้าหากคุณจะถอนไปไว้ในตลาดลงทุนแหล่งใหม่ ก็คงต้องคิดหนักๆ ว่ามันจะเสี่ยงไหม แล้วต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะอุ่นใจได้เหมือนแบงค์เดิมของคุณ

2. เวลาคุณภาพสำหรับการถ่ายทอดความรักของคุณสองคนมันหดหายไปหรือเปล่า บางครั้ง การที่คุณสองคน ต่างแยกย้ายกันไปทำภารกิจหน้าที่การงานของตน จนไม่มีเวลาให้กันและกัน นานวันเข้าความผูกพันที่คุณสองคนเคยมีให้กัน มันจะค่อยๆเจือจางไป จนบางช่วงจังหวะเวลา คุณอาจมีความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่า เขาไม่ได้มีอิทธิพลต่อจิตใจของคุณแล้ว และถ้าคุณรู้สึกอย่างนี้จริงๆ จงพึงระลึกไว้ว่าสัญญาณอันตรายกำลังส่งเสียงหวอดเตือนคุณอยู่ว่า ความรักของคุณกำลังมีช่องโหว่เปิดโอกาสให้มือที่สามแซะแซมเข้ามาอุดช่องว่างนั้นแล้ว แล้วคุณจะยอมง่ายๆ รึ 

อย่ากระนั้นเลย ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง จัดลำดับความสำคัญในชีวิตคุณให้ดี หาเวลาคุณภาพเพิ่มเติมความหวานให้กับความรักของคุณ มันไม่ยากเลยนะ หากคุณไม่มีเวลา ก็หาโอกาสโทรคุยกันก็ได้ นอกจากคุณจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของกันและกันแล้ว ยังเป็นการย้ำเตือนใจของกันและกันว่ายังมีกันอยู่นะ

3. สภาพความเป็นอยู่ในทุกวันนี้ของคุณ มันสร้างความกดดันให้คุณหรือเปล่า  บางทีความเหนื่อยหน่ายกับภาระหน้าที่ ไหนจะต้องรีบตื่นแต่เช้า เบียดเสียดผู้คน โหนรถ โหนเรือ ไปทำงาน วุ่นวายกับสารพันปัญหาจากที่ทำงานเสร็จ ลากสังขารอันทรุดโทรมกลับมาบ้าน หวังพักผ่อนให้หายเหนื่อย แต่กลับต้องมาผจญกับเจ้าตัวเล็กจอมวุ่น งานบ้าน งานครัว โอ้ย! สารพัด ทำให้พาลเบื่อๆ เซ็งๆ กับการมีครอบครัว แล้วเลยเถิดไปถึงเขาคนนั้นของคุณด้วย ไม่รู้เป็นอะไรยิ่งเห็นหน้า ก็ยิ่งหงุดหงิด นี่ ถ้าไม่แต่งงานกัน ชีวิตก็คงไม่ต้องวุ่นวายขนาดนี้ ..จริงหรือเปล่าเนี้ย.. 

เอ! แล้วเมื่อครั้งก่อนที่คุณจะแต่งงานกัน ปัญหาเหล่านี้คุณไม่ต้องเจอหรอกรึ ไม่ซิ เราเชื่อว่าคุณก็ต้องเจอมาบ้างเหมือนกัน แถมบังเอิญโชคดีได้เขาคนเดียวกันนี่แหละที่ผลัดกันปรับทุกข์ ผลัดกันปลอบโยน จนมีวันนี้ไง อย่ากระนั้นเลย ถ้าวันนี้ คุณรู้สึกเหนื่อยหน่าย ก็ลองหันหน้าปรึกษาเขา มองเขาเป็นพระเอกอีกครั้ง แล้วผลัดกันปรับทุกข์อีกหน บางทีอะไรๆ อาจจะกลับมาหวานชื่นเหมือนเดิมอีกครั้งก็ได้

4. คุณกำลังรู้สึกไม่พอใจอะไรในตัวเขาเป็นพิเศษหรือไม่  ไอ้เจ้าความรู้สึกไม่พอใจที่เริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ แล้วค่อยๆ สะสม มากๆ เข้า สักวัน มันก็จะพอกพูนกลายเป็นปมใหญ่ในใจคุณ โดยที่คุณเองก็ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนก็ได้ เพราะฉะนั้น ลองนึกทบทวนดูดีๆ มีอะไรที่คุณรู้สึกไม่ชอบใจในตัวเขา แต่ไม่กล้าพูด หรือบอกเขาไปตรงๆ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ  ลองหาโอกาสพูดกับเขาไปตรงๆ และขอให้เขาเปลี่ยนแปลง  พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ไม่นานนัก ความรู้สึกเบื่อมันก็จะอันตรธานหายไปเองแหละ

5. มีปัญหาที่ไม่สามารถเคลียร์กันได้จริงๆ สักครั้ง แบบที่ว่า วันนี้เถียงกันจนคอเป็นเอ็น ได้ข้อสรุปร่วมกันในระดับหนึ่ง แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นทุกอย่างเหมือนเดิม คุยกันกี่ครั้งก็เข้าอีหรอบเดิม นานวันเข้าก็ขี้เกียจจะพูด แล้วเลยพาลไร้อารมณ์คุยเรื่องอื่นๆ ไปด้วย นานวันเข้าก็กลายเป็นเฉยชาต่อกันไป ที่นี่พอจำเป็นจะต้องคุยอะไรกันจริงๆ มันก็ลำบากซะแล้ว 

ปัญหานี้เรียกว่าง่าย ก็ง่าย เรียกว่ายากก็ยาก ง่ายเพราะคุณรู้สาเหตุดีว่า ทำไมคุณถึงรู้สึกเบื่อเขาขึ้นมา แต่ก็ยากตรงที่ว่า การแก้ไขในสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นปัญหา แต่เขาไม่คิดอย่างคุณ นี่ซิมันยากส์ มันเป็นการฝืนใจกัน สำหรับปัญหานี้ ถ้าจริงใจจะแก้ไขกันแล้วล่ะก้อ ขอแนะนำให้คุณดึงเอาความรักที่คุณมีให้กับเขามาใช้ให้เป็นประโยชน์ ถ้าสิ่งที่เขาเป็น หรือ ทำ มันไม่หนักหนาสาหัสจนเกินไป มันเป็นเพียงสิ่งที่ไม่สบอารมณ์คุณเท่านั้น ก็ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เอาอารมณ์ห่วงหาเข้าข่ม คิดซะว่า เพื่อรักษาความรักของคุณไว้ให้คงอยู่กับคุณตลอดไป

6. ลองหาเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง หรือแยกกันอยู่สักพัก ก็คงจะดี  ถ้าคุณไม่รู้สาเหตุจริงๆ ว่าทำไมคุณถึงรู้สึกเบื่อๆ เขาขึ้นมา นึกยังไงก็นึกไม่ออก ถ้าอย่างนั้น ก็อย่าฝืนตัวเองต่อไปเลย และห้ามฝืนเขามานั่งปรับทุกข์หาสาเหตุด้วยเด็ดขาด เพราะถ้าหากเขาไม่ได้รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วยแล้ว การที่คุณไปชี้โพรงอย่างนั้น จะทำให้เขาแคลงใจคุณเปล่าๆ 

อย่าลืมนะว่า จิตใจคนนั้น ล้ำลึกซับซ้อน แล้วก็ปรวนแปรดั่งมหาสมุทร ทางที่ดีคุณควรหาโอกาสเก็บข้าวเก็บของไปปลีกวิเวกพักผ่อนเงียบๆ อยู่ต่างจังหวัดสักพักดีกว่า บางที บรรยากาศสบายๆ อากาศบริสุทธิ์ที่ต่างจังหวัด อาจทำให้จิตใจของคุณสงบขึ้น แถมบางที วันเวลาที่คุณสองคนห่างกัน อานุภาพแห่งความคิดถึง อาจเป็นเครื่องชูรสความรักให้กับคุณก็ได้ใครจะไปรู้ อ้อ! มีข้อแม้ว่า ก่อนไปอย่าลืมหาเหตุผลดีๆ ฟังดูน่าเชื่อถือมาเป็นข้ออ้างกับเขาก่อนล่ะ ไม่งั้น.. เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป