Last updated: 23 มิ.ย. 2562 |
ไม่ว่าเหตุการณ์ที่ทำให้คุณ และเขาต้องเดินหันหลังให้กันนั้นจะร้ายแรงเพียงใดก็ตาม หากมีคำ “ขอโทษ” เอื้อนเอ่ยออกจากปากของคนที่สำนึกผิด ความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนว่าจะขาดผึ่งลงไปนั้น จะค่อยๆ กลับมาผสานกันใหม่ได้อีกครั้ง เพราะคำ “ขอโทษ” เปรียบเสมือนคาถาสมานรอยร้าวของคู่รักทุกคู่…
แต่เอ! หากคนๆ นั้นเป็นคุณ! คุณจะกล้าเดินเข้าไปเอ่ยคำขอโทษหรือเปล่าน๊า!!
เอ่ยคำ “ขอโทษ” ทั้งที มันต้องมีฟอร์มกันหน่อย ลองเอาคำแนะนำด้านล่างนี้ไปใช้ดูซิ เผื่อผิดใจกันคราวหน้า คุณจะได้กล้าตัดสินใจเป็นฝ่ายเข้าไปขอโทษได้ไม่ยากนัก
1. ลำดับเหตุการณ์ บางครั้งเพราะความสับสนไม่แน่ใจว่าตัวคุณผิดหรือเปล่านี่แหละ ที่เป็นเหตุให้คุณยังไม่สามารถทำใจยอมรับว่าตัวเองควรเป็นฝ่ายเดินเข้าไปขอโทษ การลำดับเหตุการณ์ในขณะที่คุณอารมณ์เย็นลงแล้ว ผนวกกับความรักที่คุณยังคงมีต่อเขา จะทำให้คุณมองเหตุการณ์อย่างเป็นธรรม เห็นเรื่องราวชัดเจนขึ้น และรู้สึกเต็มใจที่จะเอ่ยคำ “ขอโทษ”
2. บันทึกประเด็นที่คุณผิด การจดบันทึกนอกจากจะช่วยให้การลำดับเหตุการณ์ของคุณมีความแม่นยำขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คุณดึงจุดที่เป็นความผิดพลาดของคุณออกมา เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการเตรียมคำพูดที่จะใช้ในการกล่าวขอโทษได้ตรงประเด็นอีกด้วย ที่สำคัญในระหว่างนี้ คุณจะมีโอกาสในการเรียบเรียงความคิด และระงับความตื่นเต้น รวมทั้งความกลัวต่างๆ ได้
3. เตรียมตัวให้พร้อม หากคุณรู้สึกตื่นเต้นมาก คุณอาจซ้อมพูดดูก่อนก็ได้ โดยพูดให้ได้ตามประเด็นที่จดบันทึกไว้ การฝึกซ้อมบ่อยๆ จะทำให้คุณสามารถควบคุมสถานการณ์จริงได้ไม่ยากนัก แต่ถ้าคุณไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาจริงๆ ล่ะก้อ ลองเขียนความรู้สึกของคุณลงกระดาษ แล้วยื่นให้กับเขาก่อนรีบออกจากบ้านในตอนเช้าซิ นอกจากโรแมนติกแล้ว ยังเป็นการเปิดใจเขาให้พร้อมรับคำสารภาพของคุณในตอนค่ำอีกด้วย
4. จี้ให้ตรงจุด การยอมรับผิดที่ตรงจุดนอกจากช่วยประสานรอยร้าวได้เร็วแล้ว ยังเป็นการแสดงความยึดมั่นในความคิดที่ถูกต้องของคุณอีกด้วย แถมบางทีอาจทำให้คู่ของคุณมีการปรับตัวในส่วนที่คุณไม่มีวันยอมรับได้เลยอีกต่างหาก แต่มีข้อแม้ว่า คุณไม่ควรไปพูดขุดคุ้ยในส่วนที่คุณยังคงมองว่าเป็นความผิดของเขา แต่ให้พูดเน้นหนักเฉพาะในส่วนที่คุณทำผิดเท่านั้น เว้นแต่คุณจะรู้สึกว่าความผิดที่คุณทำนั้น มีต้นเหตุมาจากส่วนที่ไม่ดีบางประการของเขา ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถือว่ามีความจำเป็นจริงๆ ที่คุณจะต้องเสริมทับในตอนท้าย
5. อย่าคิดแก้ตัวเด็ดขาด เพราะถ้าคุณคิดแก้ตัว หรืออ้างโน่นอ้างนี่ คุณก็ไม่ต้องไปขอโทษเขาหรอก จะกลายเป็นต่อความยาวสาวความยืดเปล่าๆ
6. แลกเปลี่ยนการพูดคุย ขณะที่เขาพูด คุณควรหยุดฟังอย่างตั้งใจ และคิดตามในสิ่งที่เขาพูด จะทำให้คุณเข้าใจความรู้สึกของเขา และสามารถปรับความเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น
7. ยอมรับผิดโดยดุษฎี ไม่ว่าเขาจะแรงมาอย่างไร หรือมีปฏิกิริยาไม่พอใจคุณอย่างไร คุณก็ต้องจำยอมรับ และเป็นฝ่ายนิ่งให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้ การนิ่งของคุณจะช่วยให้เขาสงบลงได้ จนคุณเริ่มมีโอกาสพูดในสิ่งที่คุณเตรียมมา
8. ขอโอกาสชดเชย ลองถามเขาดูว่า มีหนทางอะไรบ้างที่คุณพอจะทำเพื่อเป็นการชดเชยให้กับเขาได้ เท่าที่คุณจะทำให้ได้เพื่อเป็นการประสานรอยร้าว และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณสองคนกลับมาเหมือนเดิม อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อลูก
9. อย่าทำผิดซ้ำในเรื่องเดิม เพราะไม่มีใครให้อภัยคุณในเรื่องเดิมๆ ได้บ่อยๆ ที่สำคัญ การทำผิดซ้ำๆ ในเรื่องเดิมๆ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำพลาดไป แต่เป็นเรื่องที่คุณจงใจจะทำทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าไม่ถูกต้อง ถ้าเป็นอย่างนี้ รับรองว่า “คำขอโทษ” ไม่ช่วยอะไรคุณได้เลย มีหวังคงต้องเลิกลากันจริงๆ สักวันแน่นอน
25 ต.ค. 2567
3 ต.ค. 2567
4 พ.ย. 2567
13 ต.ค. 2567