10 เคล็ดลับ เมื่อคุณพ่ออยากเป็นฮีโร่ในหัวใจลูก

Last updated: 23 ก.ค. 2567  | 

10 เคล็ดลับ เมื่อคุณพ่ออยากเป็นฮีโร่ในหัวใจลูก



ส่วนใหญ่แล้ว บทบาทและหน้าที่ของผู้เป็น “แม่” จะดูแลลูกๆ แทบทุกเรื่อง ตั้งแต่ตื่นเช้าจนเข้านอน เริ่มจากการดูแลด้านอาหารการกิน การศึกษา พาลูกไปโรงเรียน การอบรมกิริยา มารยาท สุขภาพ สันทนาการ ช้อปปิ้ง ส่วน “คุณพ่อ” ทำหน้าที่ “หัวหน้าครอบครัว” ที่จะเป็นคนทำงานนอกบ้าน หารายได้มาสนับสนุนค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวเสียมากกว่า

แต่บางครั้งคุณพ่อก็อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่บ้างในวันที่พ่อว่างจากการทำงาน และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกอีกด้วย

MOMSTER นำ เคล็ดลับการเป็น “ฮีโร่” หรือ “คนดี” ในหัวใจลูกมาฝากคุณพ่อแล้วนะคะ

1. ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับลูก


ไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาว จะอยู่ในวัยใดก็ตาม ต่างต้องการคลุกคลีอยู่กับคุณพ่อด้วยกันทั้งนั้น ลูกชายจะได้ความเป็นลูกผู้ชายแบบพ่อ ลูกสาวจะได้ความเข้มแข็งมาเพิ่มเติม จากที่ได้ความละเอียดอ่อนจากคุณแม่มาแล้ว

หากคุณพ่อได้จัดสรรเวลาเพื่ออยู่ร่วมกันทั้งพ่อ แม่ลูก ไม่ว่าจะทำกิจกรรมภายในบ้าน เช่น ดูหนัง ดูซีรีส์ ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ อาบน้ำให้น้องหมา หรือกิจกรรมอื่นๆ นอกสถานที่ เช่น ขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด แค้มปิ้ง สอนลูกเล่นกีฬา ฯลฯ ลูกๆ ก็จะได้รับทั้งความสุข ความอบอุ่น และความปลอดภัย

2. ให้ความสนใจลูกอย่างใกล้ชิด


สำหรับพ่อ ลูกคือหัวใจของพวกเขา ทุกช่วงจังหวะชีวิต คือ ความสำคัญ การที่คุณพ่อให้ความสนใจชีวิตของลูกๆ ในแต่ละขั้นตอน ย่อมทำให้ลูกๆ รู้สึกผูกพันและยอมเปิดเผยเรื่องราวในแต่ละวันได้อย่างสบายใจ

ตั้งแต่คุณครูประจำชั้นชื่ออะไร ลูกเรียนห้องไหน เพื่อนๆ ของลูกโอเคไหม กิจกรรมที่ลูกชอบ ศิลปินคนโปรด แม้แต่เรื่องอาหารการกิน พ่อก็ควรให้ความสนใจด้วยว่าลูกชอบหรือไม่ชอบกินอะไร ลูกแพ้อาหารประเภทไหน เหล่านี้จะทำให้ ลูกๆ สัมผัสได้ว่าคุณสนใจพวกเขามากเพียงไร ต่อให้โตเป็น หนุ่มเป็นสาว ลูกก็ยังคงยอมรับความเป็นฮีโร่ของพ่อตลอดไป

3.
 แสดงความรักให้ลูกเห็น 


ลบล้างวิธีแสดงความรักลูกอยู่ในใจเสียนะคะ เพราะมันเป็นวิธีการเชิงลบให้กับลูกๆ เพราะพวกเขาจะสงสัยว่า “พ่อรักเขาหรือไม่” ลูกจะสัมผัสความคิดของพ่อไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงวัยที่เริ่มเรียนรู้ เขาจะจดจำการกระทำแบบลบๆ ของคุณพ่อได้ดีกว่าเสียอีก

ฉะน้้น การแสดงความรักให้ลูกเห็นเป็นรูปธรรม เช่น การบอกรักลูก ดูแลลูกเวลาเจ็บป่วย นี่คือสิ่งที่ลูกๆ อยากจะได้รับจากพ่อของเขาเลยล่ะค่ะ

4. รักลูกให้เท่ากัน



เรื่องนี้น่าจะเกิดกับทุกครอบครัวหากมีลูกมากกว่าหนึ่งคน และยิ่งมีลูกชายคนโตด้วยแล้ว ต่อให้มีลูกชายถัดมาหรือแม้แต่มีลูกสาวตามหลัง การแสดงออกของพ่อจะทุ่มไปยังลูกชายคนโตไปเกือบหมด โดยเฉพาะสังคมครอบครัวในยุคเก่าๆ

แต่ในสังคมปัจจุบัน การรักลูกแบบเท่าเทียม ไม่แบ่งเพศ ไม่ต้องจัดลำดับความรักจะมีมากขึ้น พ่อๆ จะเรียนรู้การอยู่กับลูกแบบเสมอภาค มอบความรัก ความเอาใจใส่รอบด้าน ทั้งการเรียน การสอน กิจกรรมไลฟ์สไตล์ของลูกแต่ละคนอย่าง เข้าใจ ลูกทุกคนจะรับรู้ได้ว่า พ่อของพวกเขาคือ “สุดยอดฮีโร่” อย่างแน่นอนค่ะ

5. เล่นสนุกกับลูกๆ



ลูกจะผูกพันกับพ่อแม่จนถึงวัยประถม คุณพ่อต้องรีบฉกฉวยโอกาสที่จะอยู่ใกล้ชิดกับลูกเสียก่อนลูกจะอยู่วัยมัธยมซึ่งเป็นวัยที่จะหันไปสนุกสนานกับเพื่อนวัยเดียวกันมากกว่า แต่ถ้าหากคุณพ่อได้สร้างความผูกพันมาตั้งแต่แรกเกิด ไม่ทิ้งระยะห่าง อย่างไรเสียลูกจะอยู่ในช่วงวัยใด คุณก็ยังคือ “ฮีโร่” ของพวกเขาตลอดไป


6. 
ให้เกียรติลูก



การเลี้ยงลูกแบบขู่ให้กลัว บอกเลยว่าเป็นวิธีที่ผิดมากๆ เพราะจะเป็นการสร้างบาดแผลในใจ ทำให้ลูกไม่กล้าออกไปเผชิญกับสังคมภายนอก เกิดพฤติกรรมก้าวร้าวที่ลอกเลียนแบบจากคุณพ่อที่ขู่ลูกมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ลูกเสียโอกาสในการเรียนรู้ ไม่กล้าลองสิ่งใหม่ๆ

จงเป็นพ่อที่ลูกให้ความเคารพ
จงอย่าเป็นพ่อที่ลูกรู้สึกกลัว

7. เป็นพ่อที่ลูกเชื่อถือได้


เพราะสำหรับเด็กๆ การรักษาสัญญาเป็นสิ่งสำคัญมาก ต่อให้สัญญานั้นจะเล็กมาก เมื่อคำสัญญาไม่มีอยู่จริง...ลูกๆ ก็หมดความศรัทธา ขาดความเชื่อมั่น เชื่อใจ ท้ายที่สุดก็จะเกิดความห่างเหิน

แต่บางทีคุณพ่อไม่ได้ลืมสัญญา แต่อาจติดขัดเรื่องเวลาหรือทุนทรัพย์ ให้ขอโทษลูกอย่างตรงไปตรงมา และอธิบายเหตุผล อย่าใช้วิธีบ่ายเบี่ยง หรือเพิ่มเงื่อนไขเข้าไปอีก

8. อดทนเข้าไว้


ลูกๆ จะซึมซับพฤติกรรมที่คุณพ่อแสดงออกกับพวกเขา เพราะฉะนั้นตอนที่โกรธหรืออารมณ์เสีย ควรอดทนอดกลั้น อย่าแสดงอารมณ์รุนแรงต่อหน้าลูกๆ หยุดเกรี้ยวกราด ตวาดลูก ขอเวลานอกสักนิด เว้นระยะห่าง ถอยหลังไปตั้งหลักออกมาระงับอารมณ์ นับ 1-10 สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพยายามทำความเข้าใจลูกๆ อย่างมีเหตุผล


9. สนับสนุนลูกอย่างเต็มที่ 


การสนับสนุนลูกต้องมีเหตุผลและความถูกต้องคู่กันไปด้วย หากลูกชอบกิจกรรม ว่ายน้ำ เล่นดนตรี ฟุตบอล ก็ส่งเสริมให้ลูกได้ทำกิจกรรมนั้นๆ ด้วยการเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะกับทุนทรัพย์ที่คุณพ่อพร้อมสนับสนุนได้ด้วยทำให้ลูกเชื่อว่าไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็จะมีพ่อคอยอยู่เคียงข้างเสมอ ลูกจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และก้าวผ่านเรื่องที่ยากลำบากไปได้

10. อย่าเป็นพ่อขี้เมา


ปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นในสังคมไทยส่วนใหญ่เกิดจาก “พ่อขี้เมา” หรือเสพยาเสพติดชนิดอื่นๆ ให้ลูกเห็น จนลูกเกิดภาพจำก็อาจจะส่งผลใ้ห้ลูกมีพฤติกรรมเลียนแบบอย่างแน่นอน

จงเลี่ยงการดื่มเหล้า หันหน้าเข้าวัดทำบุญ สร้างสรรค์กิจกรรมสันทนาการภายในครอบครัวเพื่อคนที่คุณรัก



10 เคล็ดลับที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนเป็น “ต้นแบบ” ที่ลูกๆ ได้เห็น และอดปลาบปลื้มคุณพ่อของเขาไม่ได้ พ่อแสดงความเป็น “ฮีโร่” หมายถึง “คนดี” ในสายตาของพวกเขา เพราะเด็กๆ จะรู้สึกถึงความมั่นคง ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

 

 

 

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้