Last updated: 23 มิ.ย. 2562 |
เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ อาหารเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสุขภาพของลูกในท้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และ 3 เดือนสุดท้ายก่อนการคลอด เนื่องจากช่วงเวลานี้มีพัฒนาการที่สำคัญต่อสุขภาพร่างกายของเขา
ปกติแล้ว ช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ธรรมชาติจะกำหนดให้ร่างกายของแม่มีการตรวจสอบสิ่งผิดปกติที่เข้าสู่รก และกระบวนการสร้างตัวอ่อน ด้วยการกำหนดให้แม่มีอาการแพ้ท้อง กินอาหารได้น้อยชนิด ในปริมาณที่น้อยลง ในทางตรงกันข้าม กลับรู้สึกอยากรับประทานอาหารแปลกๆ ที่ตัวเองไม่เคยนึกอยากกินเมื่อครั้งที่ยังไม่ได้ตั้งท้อง ซึ่งในเรื่องนี้ มีผลงานวิจัยที่สามารถสันนิษฐานได้ว่า อาการอยากอาหารของคุณแม่ เป็นผลเนื่องมาจากการขาดสารอาหารชนิดนั้นๆ นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม คุณควรกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ในทุกมื้อแม้จะไม่รู้สึกหิวก็ตาม หากเกิดอาการอึดอัดอาหารไม่ย่อย ให้ปรับมื้ออาหารโดยคำนึงถึงปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวัน
อาหารที่เรารับประทานเข้าไปเมื่อเข้าสู่ร่างกายผ่านกระบวนการย่อย และถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดจะอยู่ในรูปสารอาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งมีประโยชน์และความจำเป็นสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แตกต่างกัน
สารอาหารที่คุณแม่ควรได้รับในแต่ละมื้อ:
พลังงาน คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นวันละ 300 แคลอรี่โดยเฉลี่ย คุณสามารถสังเกตได้ว่าตัวเองได้รับพลังงานอาหารเพียงพอหรือไม่ ด้วยการชั่งน้ำหนักตัวดูว่าเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ ครึ่งกิโลกรัมสม่ำเสมอหรือไม่
โปรตีน ควรเป็นสารอาหารหลักในทุกมื้อที่รับประทาน เพราะมีความสำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อและส่วนต่างๆ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของลูก และจำเป็นในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในตัวคุณแม่ด้วย หากไม่เพียงพออาจทำให้ทารกมีน้ำหนักน้อยได้ โดยปริมาณที่ควรได้รับคือ 60-75 กรัมต่อวัน
แคลเซียม ทารกในครรภ์ต้องการอาหารแคลเซียมในปริมาณมากเพื่อสร้างเซลล์กระดูก ฟัน กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์ประสาท และเกล็ดเลือด ดังนั้น คุณควรได้รับแคลเซียมวันละ 4 ส่วน (1 ส่วนเท่ากับ 300 มิลลิกรัม) การดื่มนมอย่างน้อย 4 แก้วต่อวัน จะทำให้คุณได้รับแคลเซียมในปริมาณครบถ้วน
ธาตุเหล็ก หญิงตั้งครรภ์ต้องการธาตุเหล็กในปริมาณสูงเพื่อการสร้างเลือดให้ทารกในครรภ์ แต่เนื่องจากการได้รับธาตุเหล็กจากอาหารเป็นเรื่องที่ยุ่งยากพอสมควร และโอกาสที่จะได้รับธาตุเหล็กในปริมาณครบถ้วนจากอาหารมีน้อย ดังนั้น คุณจึงควรกินยาบำรุงที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กวันละ 30 มิลลิกรัมเพิ่มขึ้น โดยจะต้องกินเป็นประจำสม่ำเสมอทุกวัน
วิตามิน: เป็นสารอาหารที่มีความจำเป็น เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานของร่างกาย และกระบวนการย่อยอาหารให้เป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยให้ร่างกายนำสารอาหารหลักไปใช้ประโยชน์ การกินผัก และผลไม้ทุกวัน โดยควรให้ได้ปริมาณอย่างน้อย 3 ส่วนต่อวัน พยายามเน้นความหลากหลายของชนิดที่รับประทานจะทำให้คุณได้รับวิตามินครบถ้วน
น้ำ: เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดของร่างกาย คุณแม่ตั้งครรภ์ควรดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายเป็นไปด้วยดี การดื่มน้ำยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในหลอดเลือด ซึ่งจะทำให้การนำอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายดีขึ้น การดูว่าคุณแม่ดื่มน้ำเพียงพอหรือไม่ ทำได้โดยการสังเกตสีของปัสสาวะ ถ้าพบว่าปัสสาวะสีเหลืออ่อนจางๆ แสดงว่าคุณแม่ดื่มน้ำเพียงพอแล้ว แต่ถ้าปัสสาวะสีเหลืองเข้มแสดงว่าร่างกายขาดน้ำ
14 พ.ย. 2567
9 ต.ค. 2567