เตรียมตัวเป็นนักช้อปนอกโลก

Last updated: 11 มี.ค. 2568  | 

เตรียมตัวเป็นนักช้อปนอกโลก

จั่วหัวอย่างนี้...มันดูยิ่งใหญ่ เพราะปัจจุบันโลกแห่งการซื้อขายของออนไลน์อาจจะไม่ได้หยุดนิ่งแค่โลกกับโลก มันพอจะเป็นไปได้อย่างมากว่า...ต่อไปมันจะกลายเป็นช้อปปิ้งออนไลน์ท่องจักรวาลกันในที่สุด แต่ตอนนั้นแอดฯ คงสู่ขิตไปแล้วล่ะ 

ก็เพราะเหล่าเทคโนโลจิสต์ได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีในทุกมิติ...ในทุกวินาที เช่น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ - AI (Artificial Intelligence) หมายถึง ระบบหรือเครื่องจักรที่สามารถเลียนแบบกระบวนการคิด การเรียนรู้ และการแก้ปัญหาของมนุษย์ เช่น การจดจำเสียงพูด การวิเคราะห์ข้อมูล และการตัดสินใจอัตโนมัติเข้ามาช่วยตามความต้องการของมนุษย์ เป็นต้น ขณะที่พฤติกรรมของพวกเราที่เป็นนักบริโภคก็ก้าวตามไม่คิดชีวิต เรียกว่า โลกเปลี่ยน...ระบบเปลี่ยน...แล้วแม่ๆ อย่างพวกเราที่เป็นนักช้อปเพื่อครอบครัว เพื่อคนที่เรารัก เพื่อลูกสุดที่รักจะเหลือหรือคะ!!! ก็ต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย

MOMSTER ได้สรุป “เทรนด์การช้อปปิ้งสำหรับคุณแม่และลูกๆ ในอนาคต” อันใกล้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง จะได้เตรียมตัวให้เข้ากับระบบได้ทันล่วงหน้ากันเลยทีเดียว

1.AI & Chat Shopping: ผู้ช่วย AI ส่วนตัวเลือกสินค้าอัจฉริยะ

อนาคต:


-คุณแม่สามารถใช้ AI Chatbot หรือ AI Personal Shopper เพื่อช่วยเลือกสินค้าให้เหมาะกับลูก เช่น แนะนำอาหารเสริมที่เหมาะกับอายุ หรือเสื้อผ้าที่พอดีกับช่วงการเจริญเติบโต
-AI สามารถติดตามประวัติการสั่งซื้อ และช่วยเตือนให้ซื้อสินค้าจำเป็น เช่น ผ้าอ้อม นมผง วิตามินเด็ก

ตัวอย่าง:
-Amazon Alexa, Google Assistant อาจสามารถช่วยสั่งซื้อสินค้าแม่และเด็กได้ด้วยเสียง
-เว็บไซต์ e-commerce ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของแต่ละบ้าน

2.สินค้ารักษ์โลก & Circular Economy (ซื้อ-ขาย-เช่าของใช้เด็ก)
อนาคต:


-แพลตฟอร์มที่เน้นของใช้เด็กมือสอง และให้เช่าสินค้าสำหรับเด็ก (เพราะเด็กโตไว ใช้ของได้ไม่นาน) จะได้รับความนิยมมากขึ้น
-ผู้ผลิตจะออกแบบสินค้า Modular ที่ถอดเปลี่ยนหรือปรับขนาดตามวัยเด็กได้
สินค้าแม่และเด็กจะถูกพัฒนาให้เป็น Biodegradable (ย่อยสลายได้) และผลิตจากวัสดุรีไซเคิล

ตัวอย่าง:
-เว็บไซต์ที่เปิดให้เช่าเปลเด็ก คาร์ซีท รถเข็นเด็ก ฯลฯ แทนการซื้อ
-PlanToys, HaPe และแบรนด์อื่นๆ เริ่มใช้ไม้และวัสดุรักษ์โลก

3. Virtual Shopping & AR Try-On (ลองสินค้าแบบเสมือนจริง)
อนาคต:


-การซื้อของเล่นเด็กหรือเฟอร์นิเจอร์เด็กจะสามารถลองผ่าน AR (Augmented Reality) ได้ก่อน เช่น ใช้มือถือส่องดูว่ารถเข็นเด็กจะดูเป็นอย่างไรในบ้าน
-Metaverse Baby Stores ร้านค้าแม่และเด็กแบบเสมือนจริงที่คุณสามารถเดินเลือกสินค้าใน VR
ตัวอย่าง:
-IKEA Place App ให้ทดลองวางเฟอร์นิเจอร์เสมือนในบ้าน
-ร้านขายเสื้อผ้าเด็กแบบ AR ให้คุณแม่ลองจับคู่ชุดกับลูกผ่านแอป

4.Quick Commerce & Subscription Services (บริการส่งด่วน + ระบบสมัครสมาชิกรายเดือน)
อนาคต:


-Q-Commerce (Quick Commerce) จะทำให้การซื้อของใช้เด็กเป็นเรื่องง่าย เช่น ผ้าอ้อมหมดสามารถกดสั่งให้มาส่งใน 15-30 นาที
-แพลตฟอร์มสมัครสมาชิกรายเดือนที่ช่วยจัดส่งสินค้าแม่และเด็กอัตโนมัติ เช่น นมผง, ผ้าอ้อม, ขนมเด็ก, วิตามิน

ตัวอย่าง:
-Shopee/Lazada Express อาจมีบริการจัดส่งของใช้เด็กภายใน 1 ชั่วโมง
-Subscription Box ส่งของใช้เด็กที่เหมาะกับช่วงวัยของลูกทุกเดือน

5. Customization & Personalized Baby Products (สินค้าสั่งทำพิเศษสำหรับเด็ก)
อนาคต:


-คุณพ่อคุณแม่สามารถออกแบบสินค้าของลูกให้เป็นเฉพาะบุคคลได้ เช่น เสื้อผ้าที่พิมพ์ชื่อลูก ของเล่นที่ออกแบบเฉพาะ
-อาหารเด็กจะมีระบบสั่งทำพิเศษตาม DNA ของเด็ก เพื่อให้เหมาะกับสุขภาพและพัฒนาการ

ตัวอย่าง:
-3D Printed Baby Shoes – รองเท้าพิมพ์ 3D ที่ปรับขนาดให้เหมาะกับเท้าลูก
-นมผงพิเศษที่สั่งทำเฉพาะตามโปรไฟล์สุขภาพของเด็ก

6. Blockchain & Verified Baby Products (ตรวจสอบสินค้าผ่าน Blockchain)
อนาคต:


-คุณแม่สามารถใช้ Blockchain Technology เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้าเด็ก เช่น นมผง, ผ้าอ้อม, ของเล่น ว่าปลอดภัยจริง
-แบรนด์ที่ผลิตสินค้าแม่และเด็กจะต้องมี Digital Certificate ที่บอกว่าไม่มีสารเคมีอันตราย

ตัวอย่าง:
-การสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบว่าสินค้าทำจากวัสดุออร์แกนิกแท้หรือไม่
-แพลตฟอร์มขายของเล่นมือสอง ที่ใช้ Blockchain รับรองว่าสินค้าปลอดภัย

สรุป: โลกอนาคตของการช้อปปิ้งแม่และเด็กจะเป็นอย่างไร?
-AI และ Chatbot จะช่วยเลือกซื้อสินค้าแบบอัจฉริยะ
-เทรนด์รักษ์โลกมาแรง – ของเล่น, เสื้อผ้า, เฟอร์นิเจอร์เด็กจะเป็นแบบ Eco-Friendly + Circular Economy
-เทคโนโลยีเสมือนจริง (AR/VR) ช่วยให้คุณแม่ลองสินค้าออนไลน์ได้สะดวกขึ้น
-Quick Commerce & Subscription Services ทำให้การช้อปปิ้งง่ายขึ้น ส่งด่วน 1 ชั่วโมง หรือรับสินค้ารายเดือนอัตโนมัติ
-สินค้าเด็กแบบเฉพาะบุคคล จะได้รับความนิยม เช่น อาหารเสริมตาม DNA หรือรองเท้าพิมพ์ 3D
-Blockchain & Digital Verification จะช่วยให้คุณแม่มั่นใจว่าสินค้าปลอดภัยจริง

คุณแม่และพ่อยุคใหม่ควรเตรียมตัวอย่างไร?
-ติดตามเทรนด์สินค้าแม่และเด็กที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
-ใช้ AI และเทคโนโลยีช่วยคัดกรองสินค้าที่ปลอดภัยสำหรับลูก
-พิจารณาระบบ ซื้อ-เช่า-ขายต่อ สำหรับของใช้เด็ก เพื่อลดขยะและประหยัดค่าใช้จ่าย


คุณแม่คิดเห็นอย่างไรกับโลกการช้อปปิ้งแม่และเด็กในอนาคต มีเทรนด์ไหนที่คุณแม่อยากให้เกิดขึ้นจริงบ้าง?
ตอบ...ก็คงเป็นเทรนด์ที่คาดหวังว่า สักวันหนึ่งการช้อปปิ้งจะไมไ่ด้หยุดอยู่แค่ในโลก แต่อาจจะเชื่อมต่อไปถึงการแลกเปลี่ยนซื้อขายไปทั้งจักรวาลก็เป็นได้ ไม่มีอะไรที่เราทำไมไ่ด้หรอก จริงปะ!!!- 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้