การเลี้ยงลูกอย่างยั่งยืน (Sustainable Parenting)

Last updated: 21 ก.พ. 2568  | 

การเลี้ยงลูกอย่างยั่งยืน (Sustainable Parenting)

การเลี้ยงลูกอย่างยั่งยืน (Sustainable Parenting) เป็นแนวโน้มที่กำลังได้รับความนิยมในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและอนาคตของโลกมากขึ้น แนวคิดนี้ไม่เพียงแค่ช่วยลดผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและจิตสำนึกที่ดีต่อลูกหลานในอนาคตอีกด้วย

แอดมินเลยมาสรุป
“แนวทางการเลี้ยงลูกแบบยั่งยืน” เพื่อให้ลองนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของแต่ละบ้านแต่ละครอบครัวกันดูนะคะ

1.เลือกใช้ของที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Reusable Products)
-การใช้ผ้าอ้อมซักได้แทนผ้าอ้อมสำเร็จรูป
-ขวดนมหรือภาชนะที่ทำจากวัสดุที่ใช้ซ้ำได้ เช่น แก้วหรือสแตนเลส
-เสื้อผ้าเด็กที่สามารถส่งต่อได้ เช่น การแลกเปลี่ยนหรือรับเสื้อผ้าจากเพื่อน

2.ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-ของเล่นที่ทำจากไม้หรือวัสดุธรรมชาติแทนพลาสติก
-เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือของใช้เด็กที่ปราศจากสารเคมีอันตราย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิก
 
3.ลดการบริโภคที่ไม่จำเป็น
-หลีกเลี่ยงการซื้อของใช้เด็กมากเกินไป โดยเน้นซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็น
-เลือกของเล่นที่หลากหลายฟังก์ชันและช่วยพัฒนาทักษะของลูกในระยะยาว
 
4.ปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้ลูก

-ปลูกผักหรือทำสวนเล็ก ๆ ที่บ้าน เพื่อให้ลูกเรียนรู้เรื่องการเกษตรและการดูแลสิ่งแวดล้อม
-สอนลูกเรื่องการแยกขยะและการรีไซเคิล

5.สนับสนุนแบรนด์ที่ยั่งยืน


-เลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่มีแนวทางด้านสิ่งแวดล้อมชัดเจน เช่น การลดการปล่อยคาร์บอน การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้

6.เน้นการใช้ชีวิตแบบมินิมอล (Minimalist Living)
-ลดความฟุ่มเฟือยและการบริโภคเกินจำเป็น
-สร้างสภาพแวดล้อมที่เรียบง่ายเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้และเติบโตอย่างเต็มที่

ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกแบบยั่งยืน


-ลดปริมาณขยะที่เกิดจากครอบครัว
-ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
-ส่งเสริมให้ลูกมีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เด็ก
-สร้างสุขอนามัยที่ดีด้วยการลดการใช้สารเคมี

การเลี้ยงลูกแบบยั่งยืนไม่เพียงช่วยดูแลโลกใบนี้ แต่ยังช่วยสร้างนิสัยที่ดีและปลูกฝังคุณค่าที่จะเป็นประโยชน์ต่อลูกในอนาคตอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สินค้ารักษ์โลก หรือ Eco Product มักจะมีราคาสูง แต่ถ้าวางแผนและเลือกใช้อย่างเหมาะสมก็สามารถช่วยประหยัดในระยะยาวได้มากกว่า และยังช่วยลดขยะให้โลกอีกด้วย!

นี่คือ เคล็ดลับที่จะช่วยให้การใช้สินค้ารักษ์โลกคุ้มค่าและเป็นมิตรกับงบประมาณ


1. เริ่มจากสิ่งที่ใช้บ่อยและจำเป็น
- เปรียบเทียบราคาต่อการใช้งานเช่น ผ้าอ้อมซักได้อาจมีราคาสูงในตอนแรก แต่ใช้ซ้ำได้หลายครั้ง เมื่อเทียบกับผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ถือว่าคุ้มกว่าในระยะยาว
- เลือกของใช้ที่ใช้ได้หลายปี
เช่น ขวดน้ำสแตนเลสที่ทนทาน ใช้ได้ตั้งแต่ทารกจนโต

2. ใช้ของมือสองหรือแลกเปลี่ยน


-กลุ่มคุณแม่มือสอง มีหลายกลุ่มใน Facebook หรือชุมชนออนไลน์ที่แลกเปลี่ยนหรือขายสินค้าแม่และเด็กในราคาย่อมเยา เช่น รถเข็น ของเล่น หรือเสื้อผ้าเด็ก
- ของเล่นไม้มือสอง ของเล่นไม้หรือของเล่นที่ทนทานสามารถซื้อต่อและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยไม่ลดคุณภาพ

3. DIY สินค้าใช้เอง
-ทำของเล่นจากวัสดุธรรมชาติหรือของเหลือใช้ เช่น การทำบล็อกไม้จากเศษไม้ หรือใช้กระดาษเหลือทำงานประดิษฐ์กับลูก
-ทำของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าอ้อม หรือถุงผ้า

4. ลงทุนในสินค้าที่ “ซื้อครั้งเดียวจบ”


-ของใช้ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ เช่น โต๊ะกินข้าวเด็กที่ปรับเป็นโต๊ะทำการบ้านได้เมื่อโต ขวดนมที่เปลี่ยนหัวจุกได้ตามอายุของลูก

5. เลือกซื้อสินค้า Eco ที่เข้าถึงง่าย

-ร้านค้าปลีกที่มีแบรนด์รักษ์โลกในราคาเอื้อมถึง ร้านค้าอย่าง IKEA, Miniso หรือร้านที่ขายสินค้ารักษ์โลกในราคาปานกลางก็มีให้เลือกมากมาย
-สนับสนุนผู้ผลิตท้องถิ่น (Local Products)
-สินค้าท้องถิ่นมักใช้วัสดุธรรมชาติและราคาไม่แพง

6. ปลูกฝังนิสัยประหยัด
-สอนลูกให้รู้จักประหยัด เช่น การใช้น้ำอย่างคุ้มค่า หรือเลือกของเล่นจากธรรมชาติแทนพลาสติกแทนที่จะซื้อของใหม่ ให้ลูกได้เรียนรู้การใช้สิ่งของเดิมในวิธีใหม่

การเลือกใช้สินค้ารักษ์โลกแบบคุ้มค่า ไม่ได้แปลว่าต้องเลือกของราคาแพงเสมอไปค่ะ เพียงแค่เราวางแผนการใช้ให้เหมาะสม รู้จักปรับตัวกับสิ่งที่มี ก็สามารถช่วยโลกและยังช่วยประหยัดได้ในเวลาเดียวกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้