Last updated: 9 ก.พ. 2564 |
ก้าวเข้ามาบริเวณภายในของโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม อันดับแรกที่เราสัมผัสได้เลยคือรอยยิ้มอันเป็นมิตรจากคุณครู ยิ้มให้เยอะจนเรารู้สึกเขินกันไปเลย และแน่นอนว่าที่โรงเรียนอนุบาล ก็ต้องมีเด็ก ๆ ที่กำลังมุ่งมั่นกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชั้นเรียน แต่ความโดดเด่นที่อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม นอกจากรอยยิ้มของครูแล้ว อุปกรณ์การเรียน อาคารเรียน ทุกซอก ทุกมุม ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกการเรียนรู้ของเด็ก ๆ เป็นอย่างดี และการกลับมาครั้งที่ 2 ของมัมสเตอร์ จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Denla Kids Club ซึ่งเป็นก้าวแรกของนักเรียนที่โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม ผ่าน 2 คุณครูผู้เชี่ยวชาญและผู้ออกแบบกิจกรรมที่เด่นหล้า คิดส์ คลับ
"ภายในอาคารถูกจัดเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับทำกิจกรรมมากมาย มีบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยพลังของเด็ก ๆ และแววตาที่เต็มเปี่ยมด้วยกำลังใจของคุณพ่อคุณแม่ที่ เด่นหล้า คิดส์ คลับ (Denla Kids Club) ทำให้มัมสเตอร์อยากเข้าไปสัมผัสเพื่อทำความรู้จักให้มากขึ้น ว่าทำไมสถานที่แห่งนี้ถึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขได้มากขนาดนี้"
หลักจากแอบมองการทำกิจกรรมอยู่สักพักใหญ่ เราจึงเชิญคุณครูผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่าน ครูเอ๋ เขมณัฏฐ์ เผือกทุ่งใหญ่ หัวหน้างาน Denla Kids Club และครูพัช พัชนี ไทรแก้ว ครูผู้สอน Denla Kids Club มาพูดคุยถึงที่มาที่ไป และการออกแบบหลักสูตรที่เด่นหล้า คิดส์ คลับ
“อะไรคือจุดเริ่มต้นของ Denla Kids Club ค่ะ”
ครูเอ๋: เด่นหล้า คิดส์ คลับ ตั้งอยู่ ที่โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม นะคะ เป็นหลักสูตรเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพสมอง Smart brain smart learn เราออกแบบหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 3 ขวบ เด็กคือวัยสำคัญที่ต้องได้รับการเลี้ยงดูและได้รับการดูแลส่งเสริมพัฒนาการทุกด้านอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเป็นวัยทองแห่งการพัฒนาศักยภาพสมองและการเรียนรู้ให้มีศักยภาพสูงสุด
"เด็กที่มีโอกาสได้รับการเลี้ยงดูอย่างเข้าใจในการเจริญเติบโตตามช่วงวัย และได้รับการส่งเสริมพัฒนาการอย่างเหมาะสมก็จะเติบโตเป็นเด็กที่มีความสามารถในการเรียนรู้โลกได้อย่างมีความสุขทั้งในด้านการใช้ทักษะเฉพาะด้านและการแก้ไขปัญหา การกล้าเผชิญอุปสรรคต่าง ๆ รวมถึงการยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น..."
หรือที่เรียกกันว่าทักษะ EF นั่นเอง ทักษะสำคัญที่เด็กพึงมีไว้เป็นภูมิคุ้นกันพิเศษเฉพาะตัวในยุคศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงสภาพสังคม สิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว คือทักษะของการเป็น Self-Directed Learner โดยคุณพ่อ คุณแม่และบุคคลในครอบครัวเป็นผู้มีบทบาทสำคัญโดยการเป็น Coach นั่นเอง Coach ไม่จำเป็นต้องลงสนามเองแต่ Coach มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการรู้จักลูกของตนเอง รู้จักความสนใจ และความถนัดของลูก เพื่อหาแนวทางหรือคัดเลือกสิ่งที่เหมาะสมว่าลูกควรได้รับสิ่งใด สำหรับการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองให้ได้มากที่สุดอย่างเต็มศักยภาพ
“ความมุ่งมั่นของเด่นหล้า คิดส์ คลับ”
ครูเอ๋: เด่นหล้า คิดส์ คลับ ขอเป็นบ้านหลังที่ 2 ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาทักษะความพร้อมของเด็ก ๆ ให้มีพัฒนาการที่ดีสมวัย เราตั้งใจเป็นพิเศษเลยที่จะร่วมเป็นพื้นที่การเรียนรู้กับคุณพ่อคุณแม่ เรื่องของการเลี้ยงดูลูกอย่างเหมาะสมตามวัย เราให้คำปรึกษาและหาแนวทางที่ดีที่สุดกับเด็ก เป็นรายบุคคลซึ่งเด็กแต่ละคนเค้ามีลักษณะเฉพาะ และการเรียนรู้ก็แตกต่างกัน ความชอบที่ไม่เหมือนกัน บางคนชอบการเรียนรู้แบบสังเกตก่อนจึงจะให้ความร่วมมือในเรื่องนั้น ๆ บางคน ชอบในเรื่องทักษะการฟัง ชอบเรื่องการเคลื่อนไหว เป็นเด็กฐานกายทักษะการเรียนรู้แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน
"เราต้องการสร้างเด็กของเราให้มีศักยภาพ และได้ค้นพบความถนัดของตัวเอง เราจึงจัดเตรียมกระบวนการเพื่อเตรียมพื้นฐานทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และสังคม สติปัญญา เราเตรียมทักษะความพร้อมให้น้องเพื่อเตรียมเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ให้มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน โดยมีคุณพ่อ คุณแม่ ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมร่วมกับลูก เพื่อค้นหาศักยภาพความถนัดของลูก ผ่านกิจกรรมที่คุณครูได้จัดในการเรียนรู้ที่หลากหลายรูปแบบ ในแต่ละวันจะไม่ซ้ำกัน มีการเตรียมหัวข้อการเรียนรู้มากกว่า 40 เรื่องใน 1 เดือนค่ะ"
“การเตรียมความพร้อมในศตวรรษที่ 21 ที่เด่นหล้า คิดส์ คลับ เป็นอย่างไร”
ครูเอ๋: เดิมทีเราจะจัดหลักสูตรที่เตรียมความพร้อมทั้ง 4 ด้าน คือด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญานะคะ แต่เรามองว่ายังไม่เพียงพอสำหรับเด็กในยุคนี้ เราจึงได้เพิ่มทักษะของการพัฒนาเด็กไปสู่ศตวรรษที่ 21 โดยมีทักษะการเรียนรู้ กิจกรรมที่มีหลากหลายรูปแบบโดยให้คุณพ่อ คุณแม่ได้มาเข้าร่วมเรียนกับลูก แล้วค้นหาศักยภาพความถนัดของลูก คุณครูผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น คุณครูศิลปะ คุณครูเราก็มีความสามารถทางด้านศิลปะมา ส่วนคุณครูที่สอนทางด้านกระตุ้นพัฒนาสมองทั้งสองด้าน เราก็จะมีคุณครูที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้เช่นกัน และการที่เด็กได้เข้ามาเรียนที่นี่ คุณพ่อ คุณแม่จะได้คำปรึกษาจากคุณครูในเรื่องของเทคนิคการเลี้ยงลูก หรือว่าการนำไปปรับใช้ให้กับลูกได้ที่บ้าน แล้วก็ขณะทำกิจกรรมที่โรงเรียนได้ด้วยค่ะ
“ที่เด่นหล้า คิดส์ คลับ มีทั้งหมดกี่คลาส”
ครูเอ๋: มีทั้งหมด 9 คลาสค่ะ เราเปิดเรียนตั้งแต่วันจันทร์-วันเสาร์ กิจกรรมเราจะแบ่งเป็น 2 อายุ กลุ่มแรก Kids Club 1 จะเป็นน้องกลุ่ม 6 เดือนถึงขวบครึ่ง กิจกรรมจะเป็น English is fun เป็นเรื่องเกี่ยวกับของการเคลื่อนไหวร่างกาย กล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ ส่วนกลุ่มที่สอง Kids Club 2 เป็นน้องกลุ่มอายุ ขวบครึ่งถึง 3 ปี เป็นวัยที่ชอบเรียนรู้ กิจกรรมก็จะหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทักษะการสังเกต หรือทักษะทางด้าน EF หรือทางด้านภาษา รวมไปถึงการแสดงบทบาทสมมติ อย่างเช่นการช่วยเหลืองานบ้านของคุณพ่อ คุณแม่ และการออกไปสำรวจแมลง
“แนวคิดการออกแบบคลาสเรียนเริ่มต้นจากอะไรคะ”
ครูพัช: แต่ละคลาสของเรา ออกแบบมาจาก 3 หลักคือ Hands Heart Head มนุษย์เราใช้หัวใจ สมอง และการปฏิบัติ แต่กว่าที่เด็กจะลงปฏิบัติได้นั้น
...นอกจากสมองพร้อมแล้ว หัวใจต้องพร้อมที่จะอยากลงมือทำด้วย...
“นอกจากนั้นยังมีอีก 5 กิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อ Support กิจกรรมหลัก”
ครูพัช: ก็คือจะมีกิจกรรม Science กิจกรรม Sensory กิจกรรม Cooking กิจกรรม Acting และ Arts เข้ามาซัพพอร์ต เพื่อให้กิจกรรมหลากหลายมากขึ้น จริง ๆ กิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่พ่อแม่ใช้กับลูกอยู่แล้ว เพียงแต่เราเอาตัว
"สร้างบรรยากาศในคลาสเรียน ให้ตอบโจทย์การเรียนรู้ของเด็กก่อนวัยเรียนคะ”
ครูเอ๋: เมื่อเด็ก ๆ มาเข้าคลาสเรียนแล้ว เราจะเริ่มสร้างปฏิสัมพันธ์กันในห้องเรียน สร้างบรรยากาศในห้องเรียน แล้วก็คุณครูผู้สอนด้วย เพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด และไม่มีความรู้สึกกดดันในคลาสเรียน หรือความกลัวในก้าวแรกที่เข้ามาในห้องเรียน เด็กๆ จะได้ร้องเพลงอย่างสนุกสนานร่วมกับคุณครู และคุณพ่อคุณแม่ด้วย แล้วก็มีกิจกรรมให้ได้เคลื่อนไหวไปพร้อมกับจังหวะช้า เร็ว หยุด หรือแม้กระทั่งการกระโดด เพื่อให้เด็กรู้สึกสนุกและผ่อนคลาย แล้วจะได้มีสมาธิในการที่จะทำกิจกรรมในคลาสต่อไปนะคะ
“แสดงว่าประเมินการเข้าเรียนตามช่วงอายุใช่ไหมคะ”
ครูเอ๋: ใช่ค่ะ
“เด็กๆ จำเป็นต้องเรียนทุกคลาสได้ไหมคะ”
ครูเอ๋: เราสามารถเลือกเรียนได้ คุณพ่อ คุณแม่สามารถดูหัวข้อกิจกรรมของเรานะคะ เราจะมีเป็นธีมเป็นหัวข้อการเรียนรู้ โดยแต่ละวันเราจะเรียนไม่ซ้ำกัน คุณพ่อ คุณแม่สามารถเลือกหัวข้อตามความสนใจได้เลยค่ะ แล้วก็ความเหมาะสมของลูก และความถนัดของลูก อย่างเช่น...
"เราอยู่บ้านเรารู้สึกว่าลูกเราโดดเด่นทางด้านศิลปะ คุณพ่อ คุณแม่สามารเลือกเรียนในคลาสศิลปะที่เราจัดให้ จะมีทุกวันศุกร์ และวันพฤหัส ถ้าคุณพ่อคุณแม่เห็นแล้วว่าลูกเรามีความเคลื่อนไหวทางด้านร่างกายมากเลย คุณพ่อคุณแม่สามารถให้น้องมาทำกิจกรรมกับเราใน Sport and game อย่างนี้ค่ะ"
“จุดเด่นของกิจกรรม”
ครูเอ๋: เราจะเน้นให้เด็กได้ลงมือทำร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ เพราะเค้าจะได้มีปฏิสัมพันธ์และสร้างสายใยรักร่วมกัน ไปจนถึงการสื่อสารและได้คำศัพท์ใหม่ๆ ในหัวข้อกิจกรรมที่เค้าได้เรียนรู้ และไม่ได้มีที่บ้าน เช่น บทบาทสมมติจากการสำรวจแมลง โดยธรรมชาติแล้วที่บ้านอาจจะไม่ได้ชวนลูกมาเล่นอะไรแบบนี้ แต่ที่นี่เราสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน โดยจำลองภาพเหมือนจริง เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้ชวนลูกคุยลูกเล่นเด็กจะได้สื่อสารและได้ภาษา คำศัพท์ในทางสมองมากขึ้น มีสมาธิ มีสายตาที่จดจ่อสามารถทำงานผสานกันได้ ตลอด 2 ชั่วโมงต่อวันที่นี่...
"เค้าจะได้กิจกรรมที่เชื่อมโยงและต่อเนื่องเป็นกระบวนการทางสมองทั้ง 2 ด้านอย่างสมดุลกัน เวลาทำกิจกรรมเราจะไม่เน้นให้เด็กใช้มือขวาหรือใช้มือด้านใดด้านหนึ่ง แต่เราจะให้เค้าทำกิจกรรมด้วยมือทั้ง 2 ข้าง รวมไปถึงศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือการเรียนภาษาอังกฤษก็เช่นกัน เราใส่ใจแม้กระทั้งการเลือกครูผู้สอน เราเน้นคุณครูผู้สอนที่เป็น Native ครูต่างชาติ ที่เจ้าของภาษาเพราะเด็กจะได้สำเนียงการสื่อสารภาษาที่ถูกต้อง ตั้งแต่วันนี้เพื่อที่เค้าสามารถพูดหรือออกเสียงได้ชัดเจน หลักๆ แล้วทุกคลาสเน้นเรื่องการใช้มือทั้ง 2 ด้าน"
“เหมือนว่าที่เด่นหล้า คิดส์ คลับ ออกแบบให้ทุกกิจกรรมพ่อแม่สามารถนำกลับไปใช้กับลูกที่บ้านได้”
ครูพัช: ใช่ค่ะ ถ้าพ่อแม่รู้การเรียนรู้ของลูก ได้มีโอกาสสังเกตพ่อแม่จะสามารถทำกิจกรรมเหล่านี้ร่วมกับลูกได้และต่อเนื่องด้วย คือเราเน้นย้ำว่ามาเรียนกับเราแล้ว สิ่งที่พ่อแม่ควรต้องทำคือนำกิจกรรมเหล่านี้กลับไปใช้กับลูกเพื่อให้เกิดช่วงเวลาคุณภาพ เป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่จะได้โฟกัสกับลูก ด้วยภาระงานของพ่อแม่ในปัจจุบันค่อนข้างเยอะเวลาคุณภาพไม่มี บางทีเรานึกไม่ออกว่าจะทำกิจกรรมอะไรกับลูกดี เราจึงมีกิจกรรมง่าย ๆ ที่พ่อแม่สามารถกลับไปทำกับลูกได้ และรู้ด้วยว่าตัวเองควรโฟกัสเรื่องอะไร เวลาเราใช้สีแล้วเรากระตุ้นการพูดคุยกับลูกได้ คุยเรื่องสีกับลูกได้ เราสอนการลากจากซ้ายไปขวา เราใช้กล้ามเนื้อมือมัดเล็กได้ บางทีเด็กแค่เล่นทั่วไป แต่พ่อแม่สามารถโฟกัสประโยชน์กับลูกและให้ลูกสนุกได้
"บางคนชินกับการสอน ด้วยวิธีการสั่ง เพราะฉะนั้นลูกจะปฏิบัติตามคำสั่งโดยที่ลูกไม่มีโอกาสคิด และไม่กล้าลงมือทำ ถ้าเราเปลี่ยนวิธีการให้เค้าทำกิจกรรมแล้วคุณแม่เป็นแค่คนสังเกตคอยมองดูและถาม เค้าก็จะมีโอกาสทั้งได้ลงมือทำและคิดด้วยตัวเอง เด็กของเราถึงกล้าคิด กล้าลงมือทำ และกล้าที่จะสื่อสาร"
“อะไรเป็นหัวใจสำคัญของการโค้ชพ่อแม่”
ครูพัช: คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่มักอยากให้ลูกพัฒนาการไว เรียนรู้เร็วเราก็ต้องปรับสมดุลของกลุ่มผู้ปกครองให้มีความเข้าใจว่าเวลาเราทำกิจกรรมเหล่านี้ร่วมกันคือเราต้องการเชื่อมโยงพ่อแม่กับลูก ฉะนั้นการเรียนรู้ที่ดีเกิดจากแบบอย่างที่ดีของคุณพ่อคุณแม่เอง เราเป็นแค่คนแนะนำ เป็นโค้ชของพ่อแม่ เพื่อให้พ่อแม่ไปเป็นโค้ชของลูกได้ เพราะเด็กเค้ามีการเรียนรู้ของเค้าเอง เพียงแต่โค้ชจะมองเห็นการเรียนรู้ของลูกไหม ถ้ามองเห็นโค้ชก็จะสนับสนุนลูกได้ ลูกก็จะเติบโตอย่างมีความสุข เรียนรู้อย่างมีความสุข แต่ถ้าโค้ชยังไม่สามารถเข้าใจการเรียนรู้ของลูกได้ ลูกก็จะเรียนรู้แบบไม่มีความสุขเพราะเค้าจะถูกลดทอนศักยภาพ เหมือนอยากทำแต่ไม่มีโอกาสจะทำ อย่างบางคนที่มีปัญหาเราจะบอกในเบื้องต้นว่าเราปรับวิธีการปรับพัฒนาการกันไปด้วยกัน ทางเด่นหล้าจะมีอยู่แล้วที่เป็นหมอพัฒนาการ ที่ฝึกทั้งเรื่องการพูดการปรับพฤติกรรม ส่วนใหญ่เด็กที่เข้ามา Kids club ก่อน เราจะไม่เจอเรื่องนี้เราจะมีวิธีปรับพฤติกรรมตั้งแต่เบื้องต้น ส่วนใหญ่เค้าจะเรียนรู้อย่างมีความสุขและเรียนรู้ได้ดี
“ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้า และสังคมที่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็ก ๆ ถนัดการใช้เทคโนโลยีในการดำเนินชีวิต ทำให้บางทีเวลาที่เจอปัญหาไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร เด็กในยุคนี้จึงจำเป็นจะต้องมีทักษะการคิดเป็น แล้วก็แก้ปัญหาเป็น จากนั้นต้องสื่อสารได้ เขาถึงจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข”
หลังจากการพูดคุยกับคุณครูแล้ว มัมสเตอร์ยังได้พูดคุยกับผู้ปกครองที่พาน้อง ๆ มาเข้าคลาสที่เด่นหล้า คิดส์ คลับ เพื่อสอบถามถึงความรู้สึกและความประทับกับกิจกรรมที่นี่
“คุณแม่พาน้องมาเรียนตั้งแต่กี่ขวบคะ แล้วพัฒนาการที่เห็นหลังจากที่พาน้องมาเด่นหล้า คิดส์ คลับ เป็นอย่างไรบ้างคะ”
คุณแม่น้องเจญ่า: เริ่มจากตอนที่พามาเรียน เพราะเราประทับใจที่ลูกสาวคนโตได้เข้ามาเรียนที่เด่นหล้า ทีนี้เราเลยคิดว่าลูกอีกคนเราก็อยากให้เข้ามาเรียนด้วย แต่ว่าอายุยังไม่ถึงและเราก็ไม่อยากให้เสียเวลา เผอิญคุณครูแนะนำคลาสนี้ เราเลยให้มาลองเรียน เพราะเราเห็นพี่สาวเรียนแล้วพัฒนาการหลาย ๆ อย่างของเค้าโอเคค่ะ
"ตอนที่พาน้องเจญ่ามาเรียน เค้าอายุ 2 ขวบครึ่ง พอมาเรียนรู้สึกว่าน้องมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ทั้งด้านความคิด น้องสามารถคิดแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ น้องเจอเหตุการณ์เฉพาะหน้าก็สามารถคิดแก้ไขได้ทันที กล้าพูดกล้าแสดงออก แสดงความคิด และสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้"
เขาดูมีความสุขที่มาเรียน สิ่งที่ชอบมากที่สุดเลยคือ ฝึกวินัยฝึกความอดทน น้องรู้จักรอคอยมีระเบียบปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่โรงเรียนวางไว้ เค้าสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้
“ความประทับใจที่ทำให้คุณแม่ตัดสินใจพาน้องมาเข้าคลาสที่เด่นหล้า คิดส์ คลับ”
คุณแม่น้องอิงบุญ: เริ่มแรกรู้จักเด่นหล้าเพราะคุณพ่อของน้องและที่บ้านส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่าที่เด่นหล้ามาก่อน แต่มารู้จักจริง ๆ ตอนท้องได้ไปงาน BBB ไปเจอบูธของเด่นหล้าพอดีเลยได้คุยกับคุณครู ตั้งแต่น้องยังไม่คลอด พอคลอดแล้วคุณครูก็ได้มีการติดตามเรา ว่าน้องเป็นยังไง ติดตามเป็นช่วง ๆ เราจึงรู้สึกถึงความใส่ใจ เลยอยากไปดูโรงเรียนว่าเป็นยังไง ทำไมคุณครูถึงใส่ใจจังเลย พอมาแล้วก็รู้สึกถึงความใส่ใจ ไม่ใช่เค้าใส่ใจแค่ลูกเราแต่เค้าใส่ใจถึงด้วย และเหมือนเค้าจูนเรากับลูกให้ด้วย ครูจะคอยบอกว่าถ้าน้องเป็นแบบนี้ แม่ต้องเป็นแบบนี้นะ
"ซึ่งเราเป็นแม่มือใหม่ มันยากมากที่จะมานั่งเข้าใจ และเราเลี้ยงลูกคนเดียวด้วย มีบ้างที่เราอยากพักผ่อน ก็ปล่อยให้ลูกดูนี่ ดูนั้น ดูไปตามเรา ดูมือถือบ้างไรบ้าง เราเลยกลัวว่าถ้าเราทำแบบนั้นลูกจะสมาธิสั้นหรือเปล่า เราก็อ่านมาเยอะเหมือนกัน หลายเสียงก็บอกว่าเลี้ยงเองก็ได้ ไม่ต้องมาโรงเรียนหรอก มาทำไม ขี้เกียจเลี้ยงหรอนู่นนี่นั่น!! คือฉันไม่ได้ขี้เกียจนะ แต่ฉันเลี้ยงลูกอยู่คนเดียวจะไม่ให้ผ่อนคลายบ้างเลยหรอ..."
เลยตัดสินใจพาลูกมาดีกว่า ซึ่งตอนนั้นน้องอายุขวบครึ่ง ตอนแรกรู้สึกนะว่าเร็วไปไหม แต่พอมาเด็กในคลาสอายุ 6 เดือนก็มี เราก็คิดอีกว่า 6 เดือนจะรู้อะไร? แล้วขวบครึ่งจะได้อะไร? และเราก็มีหมอประจำเคยบอกว่าน้องยังค่อนข้างช้านะ ทั้งที่เด็กยุคนี้จะไปไวมาก บางคนขวบ 4 เดือน เค้าก็เริ่มพูดแล้ว บางคนเดินเก่งแล้ว แต่ลูกเรายังไม่พูด ก็เลยพามาตอนขวบครึ่งพอมาได้ 2 เดือน ต้องพาไปฉีดวัคซีน หลังจากนั้นหมอบอกพัฒนาการดีมาก คุณตาคุณยายก็เห็นความเปลี่ยนแปลง ที่เค้าเริ่มพูดได้เป็นคำ เริ่มที่จะบอกได้ว่าต้องการอะไร เมื่อก่อนคือยังไม่รู้เรื่อง จะชี้อย่างเดียว พอมาที่นี่เริ่มคิดได้เป็นระบบ เริ่มรู้ว่าเวลาเล่นต้องเก็บ เวลาทานข้าวต้องหยิบอะไร กลายเป็นก็ช่วยเราได้ด้วย เช่น การทิ้งขยะ ลูกก็ได้จากทางโรงเรียนไปเยอะค่ะ อันดับแรกคือจะได้ไม่ต้องจับมือถือ สองคือได้รู้ว่าครูมีกิจกรรมอะไร ครูสอนถึงคุณแม่ไม่ได้สอนแค่ลูกอย่างเดียว กิจกรรมคุณแม่ก็ได้จากครูด้วยเยอะ เลยประทับใจ
“ชอบคลาสไหนเป็นพิเศษไหมคะ”
คุณแม่น้องอิงบุญ: น้องชอบศิลปะค่ะ ประทับใจในคลาสที่ครูเค้าสอนแสงและเงา คือความเป็นเด็กก็จะกลัวความมืดใช่ไหมคะ แต่ครูเค้าเปลี่ยนความกลัวเป็นการสังเกต คือตอนเด็กของเรา แน่นอนว่าเราก็จะกลัวความมืดกัน เพราะคิดว่ามืดแล้วมีผี แต่ที่นี่ถ้ามืดครูเค้าสอนให้เอาไฟฉายไปส่องว่ารูปทรงอะไร การสะท้อนของแสงเงาทำให้เกิดเป็นรูปทรง พอกลับบ้านตกกลางคืนพอลูกเห็นแสงเงาในที่มืด เขาก็จะจินตนาการเองได้ แถมยังชอบด้วย สรุปแล้วพอมืดแทนที่จะกลัวกลับเป็นสังเกตและอยู่กับมันได้ค่ะ
คุณแม่น้องเจญ่า: ที่นี่ทุกคลาสเลยครูจะสอนให้เด็กพูด สอนให้เด็กลงมือทำตาม แต่คลาสที่คุณแม่ชอบที่สุดคือคลาสวันศุกร์ Sport and Game ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่เราจะได้พบ ได้เจอคุณครูต่างชาติ และยังมีกิจกรรมปีนป่าย ให้เด็กได้ออกกำลังกาย แล้วก็มีกิจกรรมให้เราได้กระชับความสัมพันธ์ของครอบครัว คุณแม่จะได้ร้องเพลง เต้นรำ กอดน้อง คือเป็นกิจกรรมที่ง่ายๆ แต่สามารถทำร่วมกันได้หมด และสิ่งที่คุณแม่ได้รับกลับไปด้วยคือ ได้ภาษาไว้กลับมาสอนน้องอีกทีนึง
อีกหนึ่งท่านที่เราสะดุดใจสะดุดตามากเลยคือคุณย่าและหลานที่น่ารัก…
“อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณย่าตัดสินใจพาหลานมาเรียนที่ เด่นหล้า คิดส์ คลับ”
คุณย่าน้องคูเปอร์: คือย่ามีอายุเยอะแล้ว ก็เคยมีความคิดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องส่งให้หลานมาเรียนเร็วเลย เพราะเราอยู่บ้านก็เลี้ยงหลานได้ พอเรามาดูแล้ว มันไม่ใช่ ด้วยวัยของเรา ด้วยรุ่นของเราและเค้าซึ่งต่างกันมาก ๆ เด็กรุ่นใหม่เค้าก็ต้องการมีพัฒนาการ หรือสิ่งที่ส่งเสริมเค้า พอย่าพามาก็เห็นว่าสิ่งนั้นตัวเราไม่เคยทำ ไม่รู้จัก ได้เรียนรู้จากที่คุณครูสอน เรารู้สึกมั่นใจ น้องได้เรียนต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ขวบ 4 เดือน จน 2 ปีเลย เวลาเข้าคลาสสังเกตว่าน้องรู้จักการรอคอย แชร์กับเพื่อน ๆ ได้ ครูให้ทำอะไรน้องก็จะรู้กฎกติกา ช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งเราก็เห็นเพราะเรานั่งอยู่ในคลาสด้วย ย่าเลยไปด้วยทุกครั้งที่มีการเรียนการสอน เพราะรู้ว่าเค้าชอบ และเรายังได้กลับไปปรับใช้ที่บ้านด้วยค่ะ
“ฝากชวนคุณพ่อ คุณแม่ ที่กำลังมองหากิจกรรมทำร่วมกันกับลูก ทำไมต้องเป็นที่เด่นหล้า คิดส์ คลับ”
คุณแม่น้องเจญ่า: ทีนี่ดีมาก ๆ ตรงที่ครูทุกคนเอาใจใส่มากในทุกกิจกรรมที่ทำ ที่จริงเราชอบทุกกิจกรรม แต่เรามีเวลาที่จะพาเค้ามาอาทิตย์นึงแค่ไม่กี่วันค่ะ เพราะเราเลี้ยงลูกเองต้องแบ่งเวลาไปรับคนโต แล้วมาดูแลคนเล็ก ทำให้เราต้องจัดสรรเวลาถ้ามาเรียนทุกวันคงไม่ไหว คุณแม่ชอบกิจกรรมที่นี่มาก หลากหลาย ไม่ซ้ำซากจำเจ เปลี่ยนใหม่ทุกอาทิตย์ คุณครูเก่งมาก มีจิตวิทยาสูงมากทั้งกับลูกและกับเรา ซึ่งก็มีหลายคนที่คิดว่าอย่าเอามาเลย เด็กยังเล็กอยู่ไม่รู้เรื่องอะไร แต่ถ้าได้ลองมาจะรู้สึกว่าเด็กเค้ามีความสุขที่เค้าได้ออกมาข้างนอก ได้เจอเพื่อนใหม่ ได้เจอสังคมใหม่ ได้เจอโลกใหม่
ที่จริงแล้วในย่อหน้าสุดท้ายนี้ มัมสเตอร์ได้เตรียมประโยคจบสวย ๆ ไว้สำหรับเชิญชวนคุณพ่อคุณแม่ให้มาทดลองเรียนที่ Denla Kids Club แต่ภายในระยะเวลา 1 วันของพวกเราคงอธิบายอะไร ๆ ไม่ได้ดีไปกว่าความรู้สึกของคุณแม่จากประสบการณ์จริงไม่ได้…
7 ต.ค. 2565