Last updated: 23 มิ.ย. 2562 |
แม่ทุกคนย่อมปรารถนาจะให้ลูกเป็น “เด็กกล้า เด็กเก่ง” ที่พร้อมจะทำอะไรได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นใจ แต่เด็กจะกล้าเก่งเป็นเจ้าหนู Can do ได้นั้น ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของคุณแม่เอง เริ่มต้นด้วยการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้เป็นคุณแม่ Can do ที่มีความ Cool มั่นใจในตัวเอง และมั่นใจในความ Cool ของลูกน้อย...
การจะเป็นคุณแม่สุดคูล ที่สามารถเลี้ยงลูกให้เป็นเด็ก Can do ได้นั้น คุณควรต้องเอาใจใส่ในสิ่งต่อไปนี้ค่ะ
1. หมั่นคอยอัพเดทตัวเองอยู่เสมอ
ไม่เพียงแต่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับสุขภาพ พัฒนาการ และการเรียนรู้ของลูกเท่านั้น แต่จะต้องอัพเดทข้อมูลข่าวสารในทุกๆ เรื่อง ไม่จำเป็นถึงขนาดต้องท่องจำให้ขึ้นใจหรอกค่ะ เอาแค่อ่านผ่านๆ ให้พอรู้เรื่องราว สามารถไปคุยต่อยอดกับคนอื่นๆ ในสังคมรอบข้างได้บ้างก็พอแล้ว แต่จะให้ดีไปกว่านั้น สำหรับบางเรื่องที่จะเป็นประโยชน์กับชีวิตครอบครัวของคุณ ก็ให้อ่านละเอียดถี่ถ้วนสักหน่อย หรือจะตัดเก็บไว้เป็นคอลเล็คชั่นความรู้ก็ไม่เลว ทำดัชนีไว้สักหน่อยเผื่อมีเรื่องราวจะต้องพึ่งพา จะได้เรียกหามาทบทวนกันได้ไม่ยากนัก
ข้อมูลข่าวสารที่คุณสรรหามาอัพเดทตัวเองอย่างต่อเนื่องนี้ จะทำให้คุณดูเป็นสาวสมัยใหม่ ที่รู้ทุกเรื่องราว ตามทันทุกสถานการณ์ ซึ่งจะทำให้เจ้าตัวน้อยแอบปลื้มใจในตัวคุณแม่ และมาดมั่นอยู่ในใจลึกๆ ที่อยากจะเดินตามรอยเป็นเจ้าหนูรู้ทุกเรื่อง เก่งทุกอย่างอย่างคุณแม่บ้าง
2. เข้าใจพัฒนาการ และพฤติกรรมของลูกน้อย
นอกจากการทำตัวให้เป็นคุณแม่ Can do ที่ดีเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับลูกน้อยแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ ความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก และความเข้าใจพฤติกรรมที่เจ้าหนูแต่ละวัยแสดงออกมานั่นเอง ก็เหมือนกับที่เขาว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง นั่นแหละค่ะ เด็กแต่ละวัยจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ตามระดับพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย สภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตขึ้นมา รวมถึงพฤติกรรมการเลี้ยงดูของคุณแม่เอง ความเข้าใจพฤติกรรมต่างๆ ที่เขาแสดงออกมา จะทำให้คุณเข้าใจความหมายในสิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง และรู้ว่าคุณควรจะตอบสนองความต้องการของเขาอย่างไร เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อการเลี้ยงดูลูกน้อยของคุณนั่นเอง ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ คุณจะสามารถวางแผนการให้การส่งเสริมสนับสนุนได้ตรงกับพฤติกรรม และความสามารถของเขา ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่สามารถประคองหนูน้อยให้ได้รับประสบการณ์จากความภาคภูมิใจในผลสำเร็จที่เกิดขึ้น อันเป็นพื้นฐานของการเพาะปลูกความกล้าเก่งให้ค่อยๆ งอกงามในตัวลูกน้อยนั่นเอง
3. มีความรู้ด้านโภชนาการ และสารอาหารที่ตรงกับความต้องการของเด็กในแต่ละช่วงวัย
เพราะสารอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตให้เติบโต และดำรงอยู่เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันได้ การเติบโตของเด็กในแต่ละช่วงวัย ร่างกายมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน เด็กแรกเกิด อวัยวะต่างๆ ทั้งภายในภายนอก ยังมีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ดีนัก ยังต้องอาศัยสารอาหารบำรุงเข้าไปเร่งเสริมสร้างอวัยวะต่างๆ ให้พัฒนาจนหนูน้อยเติบโตแข็งแรง เมื่อเติบโตขึ้นหน่อย พอที่จะคลาน เดิน หรือหยิบ จับสิ่งใดได้ สมองก็เริ่มกระตุ้นให้ซุกซนอยากรู้อยากเห็น อยากเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวไปหมด โตขึ้นมาอีกนิด ร่างกายก็เร่งขยายโครงสร้าง เพื่อเตรียมพร้อมเจ้าหนูสำหรับกิจกรรมที่ต้องอาศัยการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น
ความเข้าใจทางด้านโภชนาการ และความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันของเด็กในแต่ละช่วงวัย จะทำให้คุณแม่สามารถดูแลเรื่องอาหารให้เป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจอารมณ์ และสติปัญญาของเจ้าหนูได้ค่ะ
4. หาเวลาเป็นส่วนตัว เพื่อเพิ่มความคูลให้กับตัวเอง
เพราะคุณแม่ต้องอยู่ดูแลลูกน้อยจนเขาเติบโตกล้าแกร่งพอที่จะยืนหยัดด้วยตัวเองได้ ดังนั้น คุณจึงต้องดูแลตัวเองให้แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน การได้มีเวลาเป็นส่วนตัว ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง เปรียบเหมือนตัวคุณได้พักร้อนจากการเป็นแม่ชั่วคราว มีโอกาสได้ชาร์จแบตให้กับตัวเอง เพื่อที่จะได้มีพลังไปทำหน้าที่แม่กันต่อไป
... เท่านี้ไม่ยากเลยใช่ไหมค่ะ กับการเป็นคุณแม่สุด Cool
10 ต.ค. 2566
20 ก.พ. 2566
23 ส.ค. 2567