Plant-Based Food อาหารเนื้อไร้เนื้อ

Last updated: 14 ม.ค. 2568  | 

Plant-Based Food “อาหารเนื้อไร้เนื้อ”


Content เปิดศักราช ปี 2025 เริ่มต้นที่ “Plant-Based Food เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ” ที่ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาบริโภคอาหารประเภทนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่อีกหลายๆ ท่านอาจจะยังเข้าไม่ถึงว่าอาหารประเภทนี้คืออะไร ดีต่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหน ดีต่อลูกของเราอย่างไร...ถึงได้ฮิตติดเทรนด์โลกจนมาถึงตอนนี้

มารู้จัก “Plant-Based” กันก่อน

Plant Based คือ อาหารกลุ่มโปรตีนทางเลือก (Alternative Protein) ที่ทำมาจากพืชเป็นหลักประมาณ 95% โดยเน้นการใช้โปรตีนจากพืชเพื่อผลิตเป็นอาหาร แต่งสีและใช้น้ำมันธรรมชาติจากพืช เพื่อให้มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง ซึ่งเป็นอาหารทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคที่ต้องการลดหรือหลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการที่ร่างกายต้องการ

วัตถุดิบที่นำมาผลิต Plant Based โดยส่วนมาก ได้แก่…
- ถั่วเหลือง (Soy)
- ถั่วเมล็ดแห้ง (Bean)
- ถั่วเปลือกแข็ง (Nut)
- เมล็ดพืช (Seeds)
- ธัญพืชเต็มเมล็ด (whole grains)
- สาหร่าย (Seaweed)
- ผักและผลไม้ (Vegetables and fruits)
สามารถทำออกมาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น…
- เนื้อจากพืช (Plant-Based Meat)
- อาหารแปรรูปจากพืช (Plant-Based Processed Foods)
- นมจากพืช (Plant-Based Milk & Dairy)
- น้ำสลัดจากพืช (Plant-Based Dressing)
- เครื่องปรุงจากพืช (Plant-Based Seasoning)
- ไข่จากพืช (Plant-Based Egg)
- ไอศครีมจากพืช (Plant-Based Ice-cream)

สรุปเลยมันก็คืออะไรก็ได้ที่เป็นผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว เมล็ดพืช หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ หมู ไก่ เป็ด วัว ฯลฯ หรือแม้แต่ไข่ นม ซึ่งบางคนก็เลี่ยงหรือไม่กินเลยก็มี

อาหาร Plant-Based Food แบ่งตามความนิยม ติดกระแส ก็มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่
1.“Plant-Based Meat” หรือ “เนื้อจากพืช”


คนเรายังติดรสชาติ รูปลักษณ์ กลิ่น รสสัมผัสของเนื้อสัตว์กันอยู่ เลยมีนวัตกรรมตาให้คล้ายกับเนื้อสัตว์ทั่วไป โดยได้มีการนำเทคโนโลยี “3D Printing” มาผลิตชิ้นเนื้อจากพืชเพื่อให้รูปลักษณ์ หน้าตา รสชาติ รสสัมผัสออกมาคล้ายเนื้อสัตว์ทั่วไปได้อีกด้วย เช่น Plant-Based Meat Burger สเต็ก ไส้กรอก กุ้ง ปลา เป็นต้น

2.“Plant-Based Meal” หรือ “อาหารจากพืช”


การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตอาหารได้สร้างสรรค์ Plant-Based ในรูปแบบอาหารพร้อมทานให้มีคุณลักษณะใกล้เคียงกับอาหารปรุงสดมากยิ่งขึ้น ทำให้เป็นที่ต้องการในกลุ่มผู้บริโภคที่แสวงหาความสะดวกและรวดเร็วในการรับประทานอาหาร พร้อมทั้งยังคงดูแลสุขภาพไปด้วย โดยอุตสาหกรรมอาหารสามารถปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในรูปแบบอาหารแช่เย็น อาหารแช่แข็ง และอาหารที่สามารถเก็บในอุณหภูมิห้องได้โดยไม่ต้องแช่เย็น

3.ไข่จากพืช (Plant-based Egg)


กลุ่มผลิตภัณฑ์ไข่ที่ทำจากพืชมีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้หลากหลาย ทั้งกลุ่มผู้บริโภคที่ดูแลสุขภาพ และกลุ่มผู้บริโภคที่แพ้ผลิตภัณฑ์จากไข่ โดยเฉพาะผู้บริโภคทารกวัย 7 เดือนขึ้นไปถึงวัยเด็กเล็ก อีกทั้งในมุมมองของผู้ผลิตที่ใช้ Plant-Based Egg เป็นวัตถุดิบพบว่ามีอายุการเก็บรักษา (Shelf Life) นานกว่าไข่ทั่วไป ทำให้สามารถบริหารจัดการวัตถุดิบได้ง่ายกว่านั่นเอง

ตัวอย่าง Hen Friendly ไข่จากพืชเจ้าแรกในประเทศไทย ไข่ทางเลือกที่ทำจากพืช 100% ให้เนื้อสัมผัสใกล้เคียงไข่ไก่ สามารถนำมาทำได้หลากหลายเมนู ให้คุณค่าโปรตีนสูง ปราศจากคอเรสเตอรอล และที่สำคัญปราศจากสารก่อภูมิแพ้ Top 8 Allergen Free เด็กๆ ที่แพ้ไข่สามารถทานได้อย่างสบายใจ มังสวิรัติ วีแกน เจสามารถทานได้

คุณลักษณะล้น ประโยชน์เหลือรับ
Plant-Based Food มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านรสชาติ สุขภาพ และความยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเห็นคุณลักษณะเด่นที่ชัดเจน ดังนี้

1.วัตถุดิบจากพืชเป็นหลัก
- ประกอบด้วยผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ถั่วต่าง ๆ เมล็ดพืช และโปรตีนจากพืช เช่น เต้าหู้ เทมเป้ โปรตีนถั่ว
- ไม่มีหรือใช้น้อยมากในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อ นม ไข่

2.โภชนาการสูง
- อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยลดครอเลสเตอรอลและไขมันอิ่มตัวที่พบในผลิตภัณฑ์จากสัตว์

3.เป็นมิตรต่อสุขภาพ


- ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคอ้วน
- ส่งเสริมสุขภาพลำไส้ด้วยไฟเบอร์สูง

4.เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเลี้ยงสัตว์
- ใช้น้ำและทรัพยากรธรรมชาติน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการผลิตอาหารจากสัตว์

5. เหมาะกับทุกคนในครอบครัว
- เมนูสามารถปรับให้เหมาะกับคนทุกวัย ตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ จนถึงผู้สูงอายุ
- เหมาะสำหรับคนที่แพ้แลคโตส (Lactose Intolerant) หรือคนที่ทานอาหารวีแกน

6. ทางเลือกใหม่ของโปรตีน
- ใช้โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วลันเตา ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต หรือพืชโปรตีนสูงอื่น ๆ
- พัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อเทียม (Meat Alternative) เช่น เบอร์เกอร์พืช นักเก็ตจากพืช

7. ความหลากหลายในการปรุงอาหาร
- ปรุงได้หลากหลาย เช่น สลัด ซุป พาสต้า เบอร์เกอร์ ข้าวผัด หรือแม้แต่ขนมหวาน
- รสชาติปรับให้เหมาะสมกับทุกเชื้อชาติ เช่น ลาบเต้าหู้ไทย เบอร์เกอร์เห็ดสไตล์ตะวันตก

8. เหมาะกับเทรนด์สุขภาพปัจจุบัน
- ผู้บริโภคเริ่มหันมาสนใจอาหารที่ดีต่อสุขภาพและลดผลกระทบต่อโลก
- สนับสนุนแนวคิด Sustainable Eating

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเป็นห่วงสุขภาพด้านโภชนาการของลูกรัก จึงอยากให้ลูกได้กินอาหารที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด และอัดแน่นไปด้วยสารอาหารครบถ้วน แถมยังต้องไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ด้วย!

แต่รู้ไหม? อาหารที่ทำให้เด็กแพ้บ่อยๆ มักจะเป็นของใกล้ตัวที่เรากินกันทุกวัน เช่น นมวัว ถั่ว แป้งสาลี ไข่ขาว หรือแม้แต่ซูชิแสนอร่อย! ไม่พอยังมีสารเคมีและสิ่งปนเปื้อนในอาหารที่ทำให้พ่อแม่หลายคนปวดหัวอีกต่างหาก โดยเฉพาะเมื่อเจ้าตัวเล็กอายุ 6 เดือนไปจนถึงวัยเด็กเล็ก!

เมื่อคุณพ่อ คุณแม่วิตกเรื่องอาหารของลูก ยิ่งลูกเป็นภูมิแพ้ด้วยแล้ว เดาทางไม่ถูกว่าควรให้ลูกกินแบบไหนถึงจะไม่แพ้

ฉะนั้น “การเลือกกินอาหารประเภท Plant-Based Food” จึงเป็นทางออกที่ดี
เหตุผลสำคัญที่ลูกวัย 6 เดือน ควรเริ่มทานอาหาร Plant-Based Food

1.มีสารก่อภูมิแพ้ในปริมาณที่น้อยมาก เช่น ข้าวกล้องบด หรือข้าวกล้องบดผสมผักผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น แครอท ผสมกล้วย หรือฟักทอง
2.ลูกมีสุขภาพดีขึ้นภายในเวลา 4 สัปดาห์เท่านั้น
วารสารกุมารเวชศาสตร์ในสหรัฐอเมริการะบุว่า เด็กที่รับประทานสารอาหารพืชเป็นหลักในรูปแบบใกล้เคียงอาหารธรรมชาติกลุ่มโฮลฟู้ดที่เน้นพืชผักผลไม้ (Plant-based, whole food) นั้น มีน้ำหนักและค่าความดันโลหิตที่ลดลง รวมทั้งมีค่าครอเลสเตอรอลอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นภายในเวลาเพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น
3.ทำให้เด็กมีไอคิวสูงกว่าค่าเฉลี่ย
จากผลการศึกษาในปี 1980 ของนักโภชนาการจากศูนย์การแพทย์นิว อิงแลนด์ในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา นักวิจัยได้วัดไอคิวของเด็กที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ และพบว่าเด็กที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ รวมทั้งเด็กที่ทานเนื้อสัตว์น้อยแต่ทานพืชผักมากนั้นมีค่าไอคิวเฉลี่ยมากถึง 116 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไป
4.ทำให้เด็กมีรูปร่างที่ได้สัดส่วน
จากผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารเกี่ยวกับโรคในเด็กแห่งสหรัฐอเมริกา (American Journal of Diseases of Children) เมื่อปี 1990 พบว่า หลังจากการศึกษาระยะยาวเป็นเวลา 2 ปี ในนักเรียนอายุ 6-18 ปี จำนวน 2,272 คน พบว่านักเรียนที่ทานอาหารมังสวิรัตินั้นมีรูปร่างที่ผอมกว่า

อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหาร Plant-Based Food ไม่จำเป็นต้องให้ลูกงดทานเนื้อสัตว์ แค่เพียงลดปริมาณของเนื้อสัตว์กับอาหารแปรรูปให้น้อยลง และรับประทานอาหารที่เน้นผักผลไม้และธัญพืชเป็นหลักให้มากขึ้น ลูกก็จะได้รับสารอาหารที่หลากหลายและครบถ้วน

MENU Plant-Based Food ของลูกจ๋า
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกวัย 6 เดือนขึ้นไปจนถึงเด็กเล็กได้เริ่มสัมผัสกับอาหารประเภท Plant-Based Food ด้วยความปลอดภัยและเพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ก่อนที่จะเลือกผลิตภัณฑ์หรืออาหารให้ลูก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า อาหารหรืออาหารเสริมที่เลือกสรรนั้นไม่ได้ผ่านการสกัด การขัดสี หรือการแปรรูปใดๆ และต้องเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค 100% ที่เต็มไปด้วยคุณค่าจากธรรมชาติ.

สูตร A ข้าวบดฟักทอง: บำรุงสายตาให้ลูกน้อย
ข้าวบดกับฟักทอง ฟักทองประกอบไปด้วยวิตามินเอและแคโรทีนอยด์ ซึ่งช่วยบำรุงสายตาและทำให้การมองเห็นในที่ที่มีแสงน้อยดีขึ้น

สูตร B ข้าวกล้องผสมแครอท: กระตุ้นระบบย่อยอาหารของลูกน้อย
หากลูกมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ลองให้ทานข้าวกล้องบดผสมแครอท เพราะการรับประทานแครอทนั้นช่วยให้ลูกมีระบบขับถ่ายที่ดีขึ้น อาหารทั้งสองชนิดล้วนมีไฟเบอร์สูง จะช่วยกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายของลูกดีขึ้นเป็นลำดับเลยล่ะค่ะ

สูตร C เรื่องกล้วย กล้วย: เพิ่มพลังให้ลูกรัก
กล้วยนั้นเป็นเหมือนพลังงานในรูปแบบของขนมหวาน! เพราะมีน้ำตาลธรรมชาติถึง 3 ชนิด ได้แก่ ฟรุคโทส ซูโครส และกลูโคลส ซึ่งจะทำให้ลูกน้อยของคุณได้พลังงานแบบฟินๆ จากน้ำตาลธรรมชาติเลยทีเดียว! ยิ่งเมื่อผสมข้าวกล้องบดเข้ากับกล้วยแล้วล่ะก็ ลูกจะได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตแบบจัดเต็มแน่นอน!

แนะนำ...ร้านอาหาร Plant-Based Food ทานได้ทั้งครอบครัว
1.Plantiful
ร้านอาหารที่เน้นวัตถุดิบที่ทําจากพืชล้วน 100% ไม่มีเนื้อสัตว์ ไม่มีนม เนย ไข่ เหมาะทั้งสายมัง สายเจ สายรักสุขภาพ มากินไดทั้งครอบครัว มีทั้งอาหารไทย นานาชาติ อาหารแนวฟิวชั่น พร้อมเครื่องดื่มสุขภาพ
ที่ตั้ง: 27 ซอยสุขุมวิท 61 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เวลาเปิดบริการ: เปิดทุกวัน 8.00 – 20.00 น.
โทรศัพท์: 091 715 5247

2.BROCCOLI REVOLUTION
ร้านอาหารมังสวิรัติเน้นเสิร์ฟอาหารจากพืชผัก ผลไม้ และธัญพืชเป็นหลัก ไม่มีส่วนผสมที่มาจากสัตว์ นม ใข่ และน้ำผึ้ง เน้นแบบฟิวชั่นและอาหารนานาชาติ เครื่องดื่มมีน้ำผลไม้และสมูทตี้เพื่อสุขภาพหลายเมนูเลยล่ะค่ะ
ที่ตั้ง: 899 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เวลาเปิดบริการ: 11.00 – 20.00 น.
โทรศัพท์: 095 251 9799

3.Man and the figs
ปักหลักร้านไว้เลยจ้า สำหรับคนรักการกิน Plant Based ควบคู่ไปกับวัตถุดิบท้องถิ่นคอนเซปต์ “Zero Waste” เรียกว่าร้านนี้เน้นรักษ์โลก 100% เมนูส่วนใหญ่เน้นเรื่องการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า ดีต่อสุขภาพกายและใจ
อาหาร Signature มาแล้วต้องสั่ง คือ Man & the Figs Pizza ผลฟิกส์ออร์แกนิกปลูกในไทยกับอัลมอนด์ชีสที่เชฟทำเองรสชาติที่ใครลองต้องหลงรัก ส่วนเครื่องดื่มมีทุกอย่างสำหรับสายสุขภาพ อยากกินกาแฟก็ดริปเองได้เลยนะจ๊ะ
ที่ตั้ง: ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร (ร้านติดริมถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ใกล้กับแยกตัดถนนสาทร) หรือ BTS ช่องนนทรีทางออก 5 / MRT สาทร
เวลาเปิดบริการ: จันทร์ - ศุกร์ 7:00 น.– 20:00 น. / เสาร์ - อาทิตย์ 8:00 น.– 16:00 น.
โทรศัพท์: 098-663-595- 5

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้